จุดที่ 1. Gateway ตรวจ 3,422 ราย พบ 0 ราย, จุดที่ 2. Terminal ตรวจ 1,705 ราย พบ 0 ราย (รวมด่านตรวจท่าฉัตรไชยทั้งหมด 2 ด่าน ตรวจ 5,127 ราย พบ 0 ราย) และจุดที่ 3. สนามบินภูเก็ต ตรวจ 580 ราย พบ 0 ราย รวม 3 ด่านตรวจทั้งหมด 5,707 ราย ไม่พบผลบวก
สรุปผลการตรวจทั้งหมด 24 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย – 15 พ.ค. ทำการตรวจคัดกรองได้ 73,287 ราย พบ Covid-Ag 23 ราย ยืนยันด้วย PCR พบเชื้อ 18 ราย /ไม่พบเชื้อ 5 ราย)
สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต หากไม่มีเอกสารการฉีดวัคซีนตามที่จังหวัดกำหนด จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธีการ Antigen Rapid Test โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ยกเว้นชาวต่างชาติต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และหากผลการทดสอบพบเชื้อโควิด-19 ผู้เดินทางต้องไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดทันที
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจังหวัดภูเก็ต คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 2617/2564 เรื่อง “เพิ่มมาตรการเข้มข้นยกระดับการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” ระบุใจความสำคัญ 3 ข้อ ประกอบไปด้วย
ข้อ 1 ว่าด้วยเรื่อง การงดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง ปิดช่องทางบกด่านตรวจท่าฉัตรไชย ช่องทางน้ำท่าเรือทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต ห้ามบุคคลและยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต เว้นแต่ เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ Antigen Rapid ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทาง หรือเป็นผู้ขับขี่และผู้ที่เดินทางมากับยานพาหนะตามที่ทางจังหวัดกำหนด ซึ่งต้องมีหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทางเข้าจอดภูเก็ต หรือมีใบแจ้งประเภทสินค้าเป็นหลักฐานเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ
ข้อ 2 มาตรการยกระดับสำหรับผู้ที่เดินทางมาเข้ามาภูเก็ต จากสนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเป็นผู้ที่รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง, ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟนและยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในภูเก็ต, ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต และให้สังเกตติดตามอาการตนเองตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในชุมชน หรือสถานที่การรวมตัวของคนจำนวนมาก
สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตและพักในโรงแรมหรือที่มีลักษณะคล้ายโรงแรม ให้ผู้ประกอบการคัดกรองและวัดไข้ผู้ที่เข้ามาพักเมื่อแรกรับ, ตรวจสอบการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นหมอชนะ และการลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ gophuget.com ของผู้เข้าพัก เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าภูเก็ต และติดตามการเดินทางกรณีออกไปทำธุระภายนอกเพื่อรายงาน EOC
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดมาตรา 51 แห่ง พรบ.โรคติดต่อ 2558 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือมาตรา 52 ต้องระวังโทษปรับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยคำสั่งดังกล่าวสั่ง ณ วันที่ 14 พ.ค. โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
