ภูเก็ตออกประกาศปิดพื้นที่ป่าตองห้ามเข้าออก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบันได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัตภูเก็ตตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2563 จึงออกคำสั่งห้ามเข้าออกป่าตอง 

เนื่องจากพื้นที่ตำบลป่าตอง เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่น จึงห้ามประชาชนเข้าหรืออกจากพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่ ยานพาหนะสำหรับการขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค แก๊สหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะ กู้ชีพ กู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉิน ทางการแพทย์ รถที่ใช้สำหรับภารกิจของทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้น หรือผ่อนผันต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยเคร่งครัด

กำหนดจุดตรวจคัดกรองโรค 3 จุด คือ จุดคัดกรองสี่กอ สถานีตำรวจภูธรกะทู้, จุดคัดกรองภูเก็ตไชมอนคาบาเร่ สถานีตำรวจภูธรป่าตอง และจุดคัดกรองหน้าโรงเรียนบ้านกะหลิม สถานีตำรวจภูธรป่าตอง 

ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพิจารณาตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านจุดตรวจคัดกรอง โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอำเภอกะทู้ และเทศบาลเมืองป่าตอง

จัดชุดเข้าไปตรวจวัดไช้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลป่าตองทุกคน หากพบผู้ใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังโรติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกักกัน หรือคุมไว้สังเกตุอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัดจัดให้ และให้เทศบาลเมืองป่าตอง ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัย ร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลป่าตอง โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน

ทั้งนี้ ตามที่จังหวัดได้มีคำสั่งปิดโรงแรมแล้วตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 17/2563 ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 (อ่านเพิ่มเติม คลิก) หากมีโรงแรมใดในพื้นที่ตำบลป่าตอง จำเป็นจะต้องให้พนักงานเข้าไปปฏิบัติงานด้านการบัญชี การซ่อมบำรุง หรืออื่น ๆ ให้โรงแรมจัดหาที่พักภายในโรงแรมให้พนักงานจนกว่าจะปฏิบัติหน้าที่แล้วเสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพนักงานซึ่งอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรค

แต่หากมีพนักงานคนใดมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตจังหวัดและประสงค์จะกลับภูมิลำเนา ให้โรงแรมแจ้งรายชื่อพนักงานให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำคนตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) พิจารณาเป็นรายกรณี โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 เมษายน 2563

จังหวัดภูเก็ตขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ มิให้ออกนอกเคหสถาน หรือบริเวณสถานที่พำนักของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อ และอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปยังบุคคลอื่นอีก เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ตำบลป่าตองได้อย่างเด็ดขาด 

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่กิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่1)