เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ม.ค. 66 ได้รับการเปิดเผยจาก นายดนัย ใจแข็ง ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองภูเก็ต เผยว่า เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 66 พนักงานฝ่ายปกครองที่ร่วมกันตรวจค้นและจับกุม โดยการอำนวยการของ นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายวิเชฐ สูยะนันท์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง หัวหน้าชุดจับกุมนำโดย นายดนัย พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองภูเก็ต ที่ 1 ได้ร่วมกันตรวจค้น/จับกุม นายมอน แมน อายุ 44 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมด้วยของกลางมี 1.บุหรี่ไฟฟ้า (ขนาดใหญ่ 43 ตัว ขนาดกลาง 26 ตัว และขนาดเล็ก 10 ตัว) รวม 79 ตัว 2.เครื่องคิดเลข 1 เครื่อง 3.กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ใช้ใส่บุหรี่ไฟฟ้า 1 ใบ 4. เงินสดที่ได้จากการขายบุหรี่ไฟฟ้า 4,360 บาท
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า 1. "เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย” 2.“เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมาย" 3.“ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดีหรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ตาม พ.ร.บ.ศุลการ พ.ศ. 2560” 4.“ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” จับได้ที่ลานจอดรถลงหาดกะตะ ข้างเทศบาลตำบลกะรน หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
นายดนัย กล่าวว่า พฤติการณ์การจับกุมเนื่องจากได้รับการร้องเรียน ว่ามีบุคคลต่างด้าวตระเวนเร่ขายบุหรี่ไฟฟ้าตามชายหาดกะตะกะรน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบและสืบสวนตามสถานที่ที่ได้รับแจ้งมา เมื่อไปถึงที่บริเวณหาดกะตะ ข้างเทศบาลตำบลกะรน พบว่ามีบุคคลต้องสงสัย ตรงกับที่สายลับรายงานมากำลังเดินเร่ขายบุหรี่ไฟฟ้า ให้กับชาวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นอนอยู่ที่เตียงบริเวณชายหาด เจ้าหน้าที่จึงสังเกตเห็นพฤติกรรมมาโดยตลอดต่อเนื่อง และเมื่อผู้ถูกจับเดินขึ้นมาจากหาดกะตะ มาที่บริเวณลานจอดรถลงหาดกะตะ ข้างเทศบาลตำบลกะรน เพื่อเสนอขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับนักท่องเที่ยว ได้พบกับเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องสงสัยจึงแสดงอาการตกใจมีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นพนักงานฝ่ายปกครองและบัตรประจำพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ต่อผู้ต้องสงสัย และได้สอบถามถึงบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ต้องสงสัย ซึ่งไม่มีมาแสดงโดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นคนกัมพูชา และมาขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับนักท่องเที่ยว มาอยู่ประเทศไทยเป็นเวลา 15 ปีแล้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นในกระเป๋าสะพายพบว่าข้างในเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 79 ตัว และของกลางรายการอื่น ๆ รวม 4 รายการข้างต้น เจ้าพนักงานจึงเข้าทำการจับกุม และตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด ผู้ถูกจับรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
