ภูเก็ตเตรียมลงดาบเรือยอชท์ต่างชาติ ประกอบธุรกิจเช่าเหมาลำหลบเลี่ยงภาษี

ภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตเตรียมลงดาบเรือยอชท์ต่างชาติ ประกอบธุรกิจเช่าเหมาลำหลบเลี่ยงภาษี หลังมีการตรวจพบบางลำไม่ปฏิบัติตามกฎหมายไทย และมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ ด้านกรมท่องเที่ยวเตรียมทำคู่มือประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ประกอบการที่ต้องการมาทำธุรกิจได้ทราบขั้นตอนป้องกันการทำผิดกฎหมาย

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 11 มีนาคม 2566, เวลา 13:00 น.

เมื่อวันที่ ​10 มี.ค.66 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสรรพากรพื้นที่ภูเก็ต น.อ.กฤษณ์ เคลือบมาส รอง ผอ.ศรชล.ภูเก็ต เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนจากสมาคมธุรกิจเรือยอร์ชไทย ขอให้ตรวจสอบเรือสำราญและกีฬาขนาดใหญ่ หรือ Superyacht เข้ามาทำการค้าในน่านน้ำไทย โดยมีการอ้างอิงกรณีข่าวของบุคคลที่มีชื่อเสียงรายหนึ่ง (ดารานักแสดง) ได้ทำการเช่าเหมาลำเรือสำราญและกีฬาขนาดใหญ่ เพื่อท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2565 ซึ่งปรากฏภาพเป็นเรือที่ชักธงต่างชาติ ว่า ได้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การอนุญาตให้เรือสำราญและกีฬาขนาดใหญ่เข้ามาทำการค้าในน่านน้ำไทยตามมาตร 47 ทวิ โดยขอให้ตรวจสอบว่า ได้มีการแจ้งนำส่งภาษีรายได้จากการทำการค้าในน่านน้ำไทยต่อกรมสรรพพากรอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร 

โดยมี นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว รักษาราชการแทนอธิบดีฯ, นางสาวสมจิต ธีรยุทธวงศ์ สรรพากรพื้นที่ภูเก็ต, ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว, สำนักทะเบียนฯ เป็นต้น ตลอดจนนายดิฐพงศ์ ฐิตะดิลก นายกสมาคมธุรกิจเรือยอร์ชไทย, เจ้าของเรือลำที่มีการอ้างถึงและผู้ประสานงานเข้าชี้แจง

​อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการรับฟังระเบียบข้อกฎหมายและแนวทางการปฏิบัติ รวมถึงการชี้แจงของเจ้าของเรือแล้ว สรุปได้ว่า เรือสำราญและกีฬาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเรือต่างชาติ ที่จะเข้ามาทำธุรกิจในลักษณะการให้เช่าเหมาลำนั้น จะต้องขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า และกรมสรรพสามิต ตลอดจนกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง จึงจะสามารถประกอบธุรกิจในน่านน้ำไทยได้ 

ส่วนกรณีเรือต่างชาติที่มีการอ้างถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงว่ามีการเช่าเหมาลำท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ตนั้น น.อ.กฤษณ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าท่าฯ ภูเก็ต, สรรพากรพื้นที่ภูเก็ต เป็นต้น ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นไปบ้างแล้ว โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และเจ้าท่าฯ ภูเก็ต จะมีหนังสือสอบถามข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นประโยชน์ของชาติ โดยเราพร้อมรับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจ แต่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทย ซึ่งจะให้เวลา 7 วันในการตอบข้อมูลกลับมายังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ขณะที่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือกรณีมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเรือซุปเปอร์ยอร์ชต่างชาติที่มาประกอบการค้าในประเทศไทย  ซึ่งเข้าข่ายไม่ได้เสียภาษีและไม่ได้ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าให้ถูกต้อง นอกจากนี้ทางกรมการท่องเที่ยวจะได้จัดทำคู่มือและทำการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเข้ามาทำธุรกิจเรือยอร์ชต่างชาติในน่านน้ำไทย เพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายของไทย ทั้งนี้ที่ผ่านมาอาจจะมีปัญหาในเรื่องความไม่รู้หรือไม่เข้าใจ เพื่อหลังจากนี้จะได้ดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป และเพื่อประโยชน์สูงสุดของการท่องเที่ยวไทยด้วย เพราะธุรกิจเรือยอชท์ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของไทย

ทางด้าน ​นายดิฐพงศ์ กล่าวว่า จากประเด็นปัญหาเรือซุปเปอร์ยอชท์ต่างชาติในอดีตที่ไม่สามารถมาประกอบธุรกิจในน่านน้ำไทยได้ ซึ่งทางสมาคมฯ ผลักดันมาโดยตลอด จนมีการอนุญาตให้เรือซุปเปอร์ยอชท์ต่างชาติเข้ามาทำการค้าในน่านน้ำไทยได้ แต่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายของไทย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเจ้าท่าหรือสรรพากรและกฎหมายอื่น ๆ เพื่อรักษาประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเป้าหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมมาท่องเที่ยว และในการจัดเก็บภาษีนั้น จะคิดอยู่ที่ 12% จากการเช่าซึ่งคิดจากลูกค้า เมื่อเทียบกับการจัดเก็บในประเทศฝั่งยุโรปของไทยถือว่าต่ำมาก จึงเป็นที่นิยมและทำให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติในแถบยุโรปเข้ามาจำนวนมาก ปัจจุบันแนวโน้มคนมีชื่อเสียงของไทยก็เริ่มมาใช้บริการมากขึ้น ยืนยันว่าผู้ประกอบการไทยไม่ได้ขัดขวางการเข้ามาทำธุรกิจของต่างชาติ เพราะถือเป็นประโยชน์ในภาพรวม แต่จะต้องทำให้ถูกต้องกฎหมาย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่