ภูเก็ตแจงเด็ก 12 ตาบอดหลังฉีดไฟเซอร์ เกิดจากโรคไซนัสเฉียบพลัน ไม่ใช่ผลข้างเคียงวัคซีน

ภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตแถลงข่าว ชี้แจงกรณีผู้ปกครองเด็กอายุ 12 ปี ร้องเรียนว่าหลานชายได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จนตาบอดไม่สามารถมองเห็นและกลับไปเรียนหนังสือได้ พบสาเหตุที่ทำให้เด็กตาบอด เกิดจากโรคไซนัสเฉียบพลัน จากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส โดยเป็นผลการยืนยันจากการนำน้ำจากเบ้าตา ฐานกะโหลก และไขสันหลังไปตรวจพบโดยพบมีเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส เหมือนกันทั้งหมด

ประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันจันทร์ ที่ 9 พฤษภาคม 2565, เวลา 13:33 น.

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมให้การช่วยเหลือเด็กชายวัย 12 ปี หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 ปัจจุบันตาบอดทั้งสองข้าง ยืนยันให้การช่วยเหลือเต็มที่อย่างต่อเนื่อง หลังจากกรณีปู่และย่าของ เด็กชายนนทพัทธ์ แซ่อ๋อง อายุ 12 ปี ได้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวว่า หลานชายของตนได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม แต่หลังจากรับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งหลังจากฉีดวัคซีน มาถึงวันที่ 10 เด็กชายนนทพัทธ์ ก็มีอาการไม่สบายและช็อกหมดสติ

กรณี มีการนำเสนอข่าว กรณี ผู้ปกครองเด็กอายุ 12 ปี ร้องเรียนว่าหลานชายได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จนตาบอดไม่สามารถมองเห็นและกลับไปเรียนหนังสือได้ ในวันนี้(วันที่ 9 พ.ค. 2565) ที่ห้องประชุมมุขหน้าชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามข้อเท็จจริง

จากนั้น นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต คณะแพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายอำเภอ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงประเด็นดังกล่าว

นายณรงค์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับทราบข้อมูลและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การช่วยเหลือและดูแลเด็กและครอบครัวอย่างใกล้ชิด

โอกาสนี้ แพทย์หญิงณัฐวรรณ เทพณรงค์ นายแพทย์ชำนาญการ กุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต รายงานข้อมูล ว่า เด็กชายนนทพัทธ์ แซ่อ๋อง อายุ 12 ปี มีประวัติการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ( 10 วันก่อนมาโรงพยาบาล) ข้อมูลการรักษา ที่ รพ.วชิระภูเก็ต เข้ารับการรักษาวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2565คณะแพทย์ได้ทำการรักษาและร่วมทำการวินิจฉัยโรค มีรายละเอียดดังนี้

เป็นอาการของโรคไซนัสอักเสบฉับพลันทุกไซนัส (Acute pansinusitis) จากเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) บริเวณเบ้าตาอักเสบและมีฝีหนองในเบ้าตาด้านขวา (Orbital cellulitis with retrobulbar abscess right eye) จากเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟีโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) มีอาการ เยื่อหุ้มสมอง และเนื้อสมองอักเสบ (Meningoencephalitis) จากเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) พบกระดูกรอบ ๆ โพรงไซนัส และกระดูกรอบเบ้าตาอักเสบ (Osteomyelitis of orbital bone) และ ภาวะอุดตันของแอ่งเลือดดำบริเวณฐานกะโหลก (Cavernous sinus thrombosis)

สำหรับการรักษาที่ รพ.วชิระภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2565 แพทย์ได้ให้การรักษา ดังนี้
1. ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียทางหลอดเลือดดำที่ครอบกลุ่มเชื้อสแตปฟิ โลคอกศัส ออเรียส ร่วมกับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดหยอดตาและให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดรับประทานต่อที่บ้าน
2. การรักษา โดยวิธีผ่าตัด
2.1 ผ่าตัดไซนัส โดยวิธีการส่องกล้อง วันที่ 7 ธันวาคม 2564
2.2 ผ่าตัดเพื่อระบายหนองในเบ้าตา วันที่ 10 ธันวาคม 2564
2.3 ผ่าตัดไซนัส โดยวิธีการส่องกล้องครั้งที่ 2 วันที่ 7 มกราคม 2565 เพื่อติดตามอาการ และตัดพังผืดในโพรงไซนัส
3. ให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ตามมาตรฐานการรักษาภาวะอุดตันของแอ่งเลือดดำบริเวณฐานกะโหลก
4. ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดในหอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม เมื่ออาการคงที่แล้ว จึงย้ายมาหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม

ด้าน นายแพทย์คงกฤช กาญจนไพศิษฐ์ แพทย์ หู คอ จมูก โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวยืนยันว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กอายุ 12 ปี ตาบอด เกิดจากโรคไซนัสเฉียบพลัน โดยการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส โดยได้ผลการยืนยันจากการตรวจของการนำเชื้อจากเบ้าตา ฐานกะโหลก และไขสันหลังไปตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส เหมือนกัน

ในส่วนของ แพทย์หญิงปรารถนา ตุลยกนิษก์ จักษุแพทย์ กล่าวถึงแนวทางการดูแลรักษาต่อเนื่อง และการฟื้นฟู โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ นัดติดตามตรวจตา และให้คำแนะนำแนวทางการดูแลผู้ป่วย ทั้งแก่ผู้ป่วยเองและญาติที่ดูแล นัดทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อฝึกการเดิน การนั่ง การเคลื่อนไหว และการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน มีนัดติดตามที่คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู และวางแผนส่งพบผู้เชี่ยวชาญ Low Vision clinic ที่แผนกจักษุ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติ ได้เข้าอบรม แนวทางในการดูแลตนเอง การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ วางแผนด้านการศึกษา รวมไปถึงการงานและพื้นฐานอาชีพในอนาคต นัดติดตามอาการทางระบบประสาท ที่คลินิกระบบประสาทเด็ก และนัดติดตามอาการเรื่องไซนัสอักเสบ ที่คลินิกหูคอจมูก เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด

ทางด้าน แพทย์หญิงวิทิตา แจ้งเอี่ยม รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตกล่าวว่า จากการประชุมของทีมแพทย์และคณะกรรมการวินิจฉัยผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน มีข้อสรุปยืนยันตรงกันว่ากรณีของเด็กอายุ 12 ปี มีอาการตาบอดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่ได้เกิดจากผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน ทั้งนี้การฉีดวัคซีนและการป่วยของน้องเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงเวลาใกล้เคียงกันเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากการฉีดวัคซีนที่ทำให้ป่วย และในฐานะผู้บริหารจัดการการฉีดวัคซีนในภาพรวม ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า การฉีดวัคซีนอาจจะมีผลข้างเคียงบ้าง หรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เช่น จะมีไข้อ่อนเพลีย ปวดบริเวณที่ฉีด หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้บ้าง ในส่วนของเด็กอาการที่น่าเป็นห่วงคือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยอุบัติการณ์ของการเกิดกล้ามเนื้ออักเสบในเด็กภายหลังการฉีดวัคซีน ของไทย เกิดน้อยกว่าต่างประเทศ โดยต่างประเทศพบ 150 คนใน 1 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีน ส่วนในประเทศไทย พบเพียง 10 ราย จากสถิติการฉีดจำนวน 3 ล้านคน โดยทั้ง 10 รายรักษาหายเป็นปกติ

โอกาสนี้ จึงอยากจะขอสร้างความเชื่อมั่น การได้รับวัคซีนจะก่อให้เกิดผลดี กับกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 อยากจะให้ทุกคนมาฉีดวัคซีน จะช่วย ลดอัตราความรุนแรงของโรคโควิด19 ลดอัตราการป่วยหนักลดอัตราการนอนโรงพยาบาล ลดอัตราการเสียชีวิต ร้อยละ 98-99

นางลักษณา อิศรางกูร ณ อยุธยา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดภูเก็ตได้ดำเนินการช่วยเหลือเงินสงเคราะห์สำหรับครอบครัวที่ได้รับความลำบากและจดทะเบียนเป็นผู้พิการ เพื่อให้ได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน และจะเข้าสู่กองทุนคุ้มครองเด็กจะได้รับเงินค่าใช้จ่ายทางการศึกษา และค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล และส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้ปกครอง ในส่วนของการศึกษาจะหาสถานที่เรียนที่เหมาะสมให้ต่อไป

รายงานเพิ่มเติม: เอกภพ ทองทับ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่