ภายหลังจากเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ผู้ปกครองของเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปี ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กหญิงอายุ 11 ปี ภายในบ้าน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต พร้อมทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย เนื่องจากเป็นเยาวชน ก่อนที่จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเยาวชนที่ถูกกล่าวหาว่ารุมทำร้ายต่อไป ในขณะที่พี่สาวของหนึ่งในวัยรุ่นผู้ก่อเหตุร้องขอความยุติธรรม ยืนยันไม่ได้มีการขู่ฆ่าแต่อย่างใด
วันนี้ (17 พ.ค.) นายพยุงศักดิ์ กาฬมิค ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวว่า ได้มีการติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหายแล้ว เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสิทธิที่จะได้รับตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ในกรณีที่ผู้เสียหายไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งจะประกอบด้วย ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ค่าขาดประโยชน์การทำมาหาได้ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ กรณีที่บาดเจ็บก็ต้องพิจารณาว่ามากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นการเยียวยาเบื้องต้นจากภาครัฐ ส่วนคดีแพ่งจะให้ความช่วยเหลือในขั้นต่อไป ซึ่งทางสำนักงานมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่คอยให้ความช่วยเหลือติดตามคดี และปกติเมื่อคดีขึ้นสู่ศาลก็จะมีหนังสือแจ้งให้ทางผู้ปกครองทราบว่า จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายอะไรบ้างอย่างไร
นอกจากนี้ยังสามารถที่ใช้ทนายหรือนิติกรของศาล หรือยุติธรรมจังหวัดในการช่วยเขียนเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ ในส่วนของพนักงานสอบสวนก็จะมีการแจ้งสิทธิกรณีตกเป็นผู้เสียหายทางอาญา ชีวิต ร่างกาย เพศ หรือกรณีที่ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงแก่ชีวิต ให้ทางผู้เสียหายทราบและนำใบแจ้งสิทธิ มาแจ้งที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อให้พนักงานระดับจังหวัดพิจารณาในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย หากทำร้ายผู้อื่นก็จะเป็นคดีอาญา พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไป
“ทราบว่าพนักงานสอบสวนรับเรื่องเป็นคดีแล้ว อยากบอกน้อง ๆ ว่า ทุกอย่างตัวเราทำอะไรไปและกระทบสิทธิคนอื่นมีความผิดหมด ยิ่งเป็นเด็กผู้ปกครองมีความผิด ปัจจุบันการสร้างความรู้สึก การไปทำร้ายกันเป็นความผิดและจริง ๆ เคยเห็นน้อง ๆ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสถานพินิจ หากไม่ผิด โดยเด็ก ๆ จะเริ่มทำผิดเล็ก ๆ ต่อไปก็จะทำผิดใหญ่ขึ้น หากไม่มีใครมาว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษ จากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ฝากเตือนน้อง ๆ ใจเขาใจเรา ไม่อยากให้ใครทำร้ายใคร ทางกลับกันหากเราโดนกระทำอย่างนั้นเราจะรู้สึกอย่างไร กระทบทางจิตใจ จริง ๆ แล้วการทำร้ายในกลุ่มเด็กนอกจากบาดแผลร่างกายภายนอกแล้ว ยังมีบาดแผลทางความรู้สึกทางจิตใจ และฝากน้อง ๆ จริง ๆ ประเทศต้องการคนเก่งคนดีเพื่อพัฒนาประเทศ สังคมจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความคิดมีวิจารณญาณ หากใช้ความรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมาแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ มีแต่ทำทุกอย่างให้เลวร้าย” นายพยุงศักดิ์ กล่าว
“มีหลากหลายวิธีการที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยไม่ใช้ความรุนแรง ปัจจุบันสังเกตคนที่มีความคิดความรุนแรงจะหมดไป คงต้องมาแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ด้วยการพูดคุยหรือวิธีการอื่น และผู้ปกครอง ชุมชนหรือสังคมต้องช่วยกันดูแล เพราะสังคมจะอยู่ได้ด้วยทุกคนช่วยกันดูแล ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ผู้กระทำผิดที่เป็นผู้เยาว์ อายุต่ำกว่า 20 ปีไปทำความผิด นอกจากเจ้าตัวมีความผิดแล้ว ตามกฎหมายผู้ปกครองมีความผิดด้วย ส่วนโทษมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์คดี แล้วแต่พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ดำเนินการ ความจริงผิดทั้งผู้ทำและผู้ปกครองด้วย ซึ่งยอมความกันได้ เพราะเป็นคดีอาญาส่วนตัว ซึ่งรายละเอียดอยู่ที่พนักงานสอบสวนว่าเหตุการณ์รุมทำร้ายหรืออะไร”
ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต