เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่หมู่ 10 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบกับสองปู่และย่าของเด็กชายนนทพัทธ์ แซ่อ๋อง อายุ 12 ปี นางเกสี แซ่อ๋อง (ย่า) อายุ 62 ปี กับ นายก้าน แซ่อ๋อง (ปู่) อายุ 62 ปี หลังได้รับการร้องเรียนว่าหลานชายได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จนตาบอดไม่สามารถมองเห็น หูข้างขวาไม่ได้ยินและกลับไปเรียนหนังสือได้
นางเกสี ผู้เป็นเป็นย่าเปิดเผยว่า น้องโบ๊ท หรือเด็กชาย นนทพัทธ์ อายุ 12 ปี ได้รับการวัคซีนจำนวน 2 เข็ม แต่หลังจากรับวัคซีนเข็มที่ 2 เมื่อ 25 พ.ย. 2564 จากนั้นประมาณวันที่ 10 ก็มีอาการในตอนค่ำ
โดยในช่วงค่ำน้องโบ๊ทยังไม่ได้ไปหาหมอทันที แต่ได้กินยารักษาที่บ้าน กระทั่งในตอนเช้าน้องโบ๊ทยังไม่ดีขึ้น และตัดสินใจจะไปหาหมอแต่เกิดอาการไม่มีแรงขณะเดินอยู่ภายในบริเวณบ้าน ก่อนจะเกิดอากาช็อคไปหลายชั่วโมงและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลถลาง ซึ่งน้องโบ๊ทยังรู้สึกตัวแต่มีอาการชัก จากนั้นจึงถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งในขณะนั้นน้องโบ๊ทไม่รู้สึกตัวแล้ว
“อยู่ห้องไอซียูสองอาทิตย์ รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา มองไม่เห็นแล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยรักษาดูแล สงสารหลาน ตั้งแต่มีปัญหาเรื่องจะเรียนต่อก็ไม่ได้เรียนซ้ำตายังมองไม่เห็น ที่บ้านก็ลำบาก อยากให้หลานได้รับการรักษา ครอบครัวทุกข์มาก มีหน่วยงานมาเยี่ยมก็บอกให้รอ เรารอมานานมากแล้ว เวลาที่หลานบอกว่าย่าเรามีเวรมีกรรมกันนะ หลานไม่อยากให้ย่าลำบาก ทรมานจิตใจมากเลยเวลาได้ฟัง เราก็ได้แต่ปลอบใจ บางครั้งเพื่อนเขาที่โรงเรียนมาเยี่ยมเขาก็ดีใจ เขาบอกจะกลับไปโรงเรียน”
“วันนี้รอด้วยความหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนค่าใช้จ่ายหากมีผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือก็สามารถช่วยได้ตามบัญชี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ถลาง ชื่อบัญชี นาง เกสี แซ่อ๋อง เลขบัญชี 011842210162”
ขณะที่ นายก้าน กล่าวว่า “เห็นหลานแล้วร้องไห้ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว หมดกำลังใจ อยากให้เขาได้รับการรักษาเฉพาะทาง ทำอย่างไรก็ได้ให้เขามองเห็น มีหน่วยงานเข้ามาให้กำลังใจ แต่ก็ต้องรออยู่อย่างนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานของรัฐ ขอบคุณจริง ๆ จากใจ โดยเฉพาะผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเมืองใหม่ที่ช่วยมาตลอด เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดีมากดีทุกคนเข้ามาช่วยกันทุกคน วันนี้มีความหวังที่ไม่รู้จะได้รับเมื่อไหร่”
ด้านเจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่ นายวิชัย ไกรเทพ กำนันเทพกระษัตรี กล่าวว่า ตนเข้ามาประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ พร้อมกับนำถุงยังชีพมาด้วย และเงินช่วยเหลือบางส่วนสำหรับการไปหาหมอ ในขณะเดียวกันก็ได้มีการประสานไปยังโรงพยาบาลแล้ว และมีการประชุมไปแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้มีนัดประชุมรอบหน้าเร็ว ๆ นี้
“ผู้บังคับบัญชาได้สั่งให้ผมดูแลแล้ว ลูกบ้านผมผมต้องดูแล นายอำเภอที่ย้ายมาใหม่ได้มาดูหลายครั้งแล้ว และช่วยค่าใช้จ่ายด้วย” นายวิชัย กล่าว
ขณะที่น้องโบ๊ท กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเรียนหนังสือปานกลาง และเป็นนักกีฬาด้วย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมืดมนไปหมด
“หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 มา จากนั้น 9 วัน กินน้ำกินข้าวก็อาเจียน กินยาหลายเม็ดก็ไม่หาย รู้สึกเหมือนอาการเป็นไข้ หลังจากนั้นก็ไม่หาย วันที่ 10 ไปโรงพยาบาล เดิน ไม่ตรงแล้วครับ ผมนั่งเล่นกับตาหน้าบ้าน กลับมานอนที่เตียงแล้วก็ชัก แล้วก็ไม่รู้สึกตัวเลยจนเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นตายังมองเห็นอยู่ หลังจากสลบแล้วตื่นขึ้นมาตามองไม่เห็นแล้ว”
“รู้สึกลำบาก มันเหนื่อยเสียใจ ก่อนหน้านี้ผมเรียนหนังสือปานกลาง ผมเป็นนักกีฬาด้วยเสียใจที่ตามองไม่เห็น ตอนนี้มองไม่เห็นทั้งสองข้าง และหูข้างขวาไม่ได้ยินเลยครับ ใช้ชีวิตประจำวันโดยมีย่าคอยดูแล อยากลับไปเรียนหนังสือครับ”