รพ.ภูเก็ตเรียกร้องชาวรัสเซียทำตัวให้เหมาะสม หลังชิ่งค่ารักษา พาแฟนสาวถือไม้เบสบอลข่มขู่ จนท.

ภูเก็ต – เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภูเก็ต เรียกร้องให้ชาวรัสเซียในจังหวัดภูเก็ตแสดงพฤติกรรมอย่างเหมาะสม หลังมีชายชาวรัสเซียปฏิเสธจ่ายค่ารักษาพยาบาล แถมยังพาแฟนสาวกลับเข้ามาที่โรงพยาบาลถือไม้เบสบอลข่มขู่เจ้าหน้าที่

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 22 เมษายน 2567, เวลา 14:35 น.

โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ออกแถลงการณ์อย่างเข้มงวดต่อชุมชนชาวรัสเซียในจังหวัดภูเก็ต เรียกร้องให้ชาวรัสเซียปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงพยาบาล และประพฤติตนอย่างเหมาะสมตามกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งการเรียกร้องดังกล่าวนี้ได้มีขึ้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับชาวรัสเซียที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลังนี้

ซึ่งรวมถึงกรณีล่าสุดที่มีผู้ป่วยชายชาวรัสเซียที่เข้ามารับบริการแล้วปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารักษา  และเมื่อกลับเข้ามาในโรงพยาบาลอีกครั้ง แฟนสาวของชายคนดังกล่าวยังได้ถือไม้เบสบอลในลักษณะข่มขู่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลอีกด้วย

โดยจดหมายฉบับดังกล่าวได้ถูกเขียนขึ้นเป็นภาษาอังกฤษถึงชุมชนชาวรัสเซียโดยเฉพาะ (Dear Russian Community in Phuket) ลงวันที่ 20 เม.ย. 67 พร้อมแนบบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ลงนามโดย นางเมธาวี มณีศรี หัวหน้างานผู้ป่วยต่างประเทศ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยได้มีการประสาน The Phuket News (ภาษาอังกฤษ) และ Novosti Phuketa (ภาษารัสเซีย) เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยมีเนื้อความในจดหมายแปลเป็นไทยได้ว่า

“ทางชุมชนชาวรัสเซียมีความจำเป็นที่จะต้องรับทราบถึงพฤติกรรมอันไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งได้อธิบายไว้ในบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และเพื่อต้องการจะเน้นย้ำว่าฉันพร้อมที่จะช่วยเหลือและให้ความร่วมมือกับทุกคนในทางการแพทย์ [เท่านั้น] หากพวกเขาปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานและเคารพกฎหมายและข้อบังคับสาธารณะ”

“ค่ารักษาพยาบาลจะต้องได้รับการชำระก่อนที่ผู้เข้ารับบริการจะออกจากโรงพยาบาล ซึ่งหากผู้ใดไม่ได้ทำการชำระค่าบริการทางโรงพยาบาลจะมีทำการจดบันทึกและอาจส่งผลให้บุคคลนั้นอยู่ในรายชื่อแบล็คลิสต์ เนื่องจากบริการทางด้านสุขภาพไม่ได้ให้บริการฟรี ฉันจึงขอสนับสนุนให้ทุกคนมีประกันสุขภาพหรือประกันการทำงาน และปฏิบัติตามคิวการรออย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกับคนไทยคนอื่น ๆ” เธอกล่าว พร้อมทั้งสัญญาว่าจะให้บริการ ให้ความช่วยเหลือ และให้คำแนะนำทุกครั้ง เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นในทางการแพทย์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของจดหมายเธอได้ระบุว่า “ฉันขอเรียกร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบ เพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมของชุมชนมีความสามัคคี” พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณและยินดีต้อนรับชาวรัสเซียให้เข้ามารับบริการที่โรงพยาบาล ในบรรยากาศที่ดีกว่ากรณีที่เพิ่งเกิดขึ้น

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางนางเมธาวีได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองภูเก็ต ในช่วงบ่ายของวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา บันทึกประจำวันในเวลา 16.33 น. ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 14.00 น. นายเซอร์เกย์ เชนท์ (Sergey Chent) อายุ 48 ปี สัญชาติรัสเซียได้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และค้างค่ารักษาพยาบาลจำนวน 8,380 บาท โดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงหลบหนีไม่จ่าย

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย. เวลาประมาณ 15.00 น. นายเซอร์เกย์และแฟนสาวชาวรัสเซียได้เข้ามาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่เลยทวงถามค่ารักษาพยาบาล 8,380 บาท แต่ยังปฏิเสธการจ่ายอีก ทั้งยังได้พาอาวุธไม้เบสบอลเข้าไปในโรงพยาบาล ได้แสดงพฤติกรรมข่มขู่เจ้าหน้าที่ และแสดงตัวว่ารู้จักตำรวจ ทั้งก่อความวุ่นวายในโรงพยาบาล หลังจากนั้นผู้แจ้งก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ และพาตัวนายเชนต์มาที่ สภ.เมืองภูเก็ต เมื่อมาถึงได้ยินยอมชดใช้ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 8,380 บาท

จากพฤติการณ์ดังกล่าว ผู้แจ้งขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายเซอร์เกย์ เชนท์ ตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เหตุเกิดที่โรงพยาบาลโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เวลา 15.00 น. อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่ามีการตั้งข้อกล่าวหาแก่แฟนสาวชาวรัสเซียที่ได้มีการถือไม้เบสบอลเข้ามาในโรงพยาบาลและข่มขู่เจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

นางเมธาวีได้เปิดเผยกับบรรณาธิการข่าว The Phuket News ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการเข้าใจผิดแต่อย่างใด เนื่องจากชายคนรัสเซียคนดังกล่าง “ต้องการข่มขู่ให้เธอหวาดกลัว มีพฤติกรรมเยี่ยงมาเฟีย และอ้างว่าตนมีธุรกิจหลายอย่างและรู้จักคนใหญ่คนโตในภูเก็ต”

“ฉันเพียงต้องการแจ้งให้ชุมชนชาวรัสเซียทราบว่า ไม่ควรประพฤติตัวเหมือนผู้ชายคนนี้ กรุณาอาศัยอยู่ในภูเก็ตอย่างสงบสุข และรักษาความสัมพันธ์อันดีไว้ นั่นคือข้อความที่ฉันอยากจะสื่อ” นางเมธาวี เปิดเผยกับ The Phuket News

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและร่วมประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของตำรวจภูธร ภาค 8 เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกับมาเฟียต่างชาติที่เชื่อว่าตนอยู่เหนือกฎหมาย

“ในส่วนของการป้องกันการกระทำความผิดของคนต่างชาติ อย่าถือว่าเป็นเรื่องเล็ก จากข้อมูลพบว่ามีเครือข่ายภาคธุรกิจที่มาทำธุรกิจเหนือกฎหมาย ขอให้ดำเนินการจัดการ” นายเศรษฐา กล่าวเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 67

อย่าให้ผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย เข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ อย่าให้มาเฟียต่างชาติเข้ามาทำลายการลงทุน ขอให้ สส. เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้ต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่ดีทำลายความน่าเชื่อถือ”

“ปัจจุบันสังคมให้ความสำคัญ เพ่งเล็งนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาประกอบการในพื้นที่ ขอให้เร่งตรวจสอบ โดยอย่าให้กระทบต่อความเชื่อมั่น กระทบต่อการท่องเที่ยว ขอฝากให้จัดการรายใหญ่ที่มีพฤติกรรมมาเฟียให้ได้ อย่าจับแต่รายย่อย ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้องเป็นธรรมและเคร่งครัด” 

“ขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหา อย่าให้น้ำผึ้งหยดเดียวกลายเป็นปัญหา อย่าให้เรื่องดี ๆ ที่เราทำอยู่สูญเปล่า” นายกฯ กล่าว

ในขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 20 เม.ย.67 ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับตำรวจป่าตอง ออกตรวจประชาสัมพันธ์ร้านรถเช่า และนำเเผ่นสติกเกอร์มาตรการในการให้เช่ารถ แก่ชาวต่างชาติมาประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ป่าตอง เพื่อเน้นย้ำกำชับให้ร้านปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความถูกต้องและความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่