รมว.พิพัฒน์เน้นย้ำวางกลยุทธ์ยกระดับภูเก็ตสู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง

ภูเก็ต - วันนี้ (28 เม.ย.65) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองมาตรฐานสุขอนามัยระดับสากลและเผยแพร่ความรู้งานวิจัยของโครงการต้นแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และปาฐกถาในหัวข้อ “นโยบายการยกระดับพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง”

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 28 เมษายน 2565, เวลา 13:04 น.

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่สถานประกอบการในจังหวัดภูเก็ตได้รับมาตรฐานสุขอนามัยระดับสากล GBAC Star ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการนำมาตรฐานระดับสากลมาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของไทย สร้างความสามารถในการแข่งขันประเทศที่เป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยสำหรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูง อันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยสำหรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

"ระยะต่อจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้วางกลยุทธ์ในการยกระดับพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง โดยจะมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทย กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยพุ่งเป้าหมายการพัฒนาไปที่การท่องเที่ยวศักยภาพ 6 ด้านได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมติ ครม.เมื่อ 1 มี.ค. 65 ได้อนุมัติหลักการในการจัดสรรงบประมาณ 1,411.70 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลกระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569" นายพิพัฒน์ กล่าว

โดยจะมีการจัดสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจรประกอบด้วย ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร ศูนย์อภิบาลสุขภาพผู้สูงอายุนานาชาติ ศูนย์ใจรักษ์หรือศูนย์การดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายของชีวิตและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร, การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจและสัมมนา โดยประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่ง ครม. ได้อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 4,180 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดจัดขึ้นบนที่ดินราชพัสดุแปลงบ้านท่าฉัตรไชย ต. ไม้ขาว อ. ถลาง จ. ภูเก็ต เนื้อที่ 141 ไร่

การท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาด เช่นการพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าให้ภูเก็ต สมุย และแหลมฉบังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ รวมถึงกิจกรรมทางน้ำอาทิ ดำน้ำ เวคบอร์ด เจ็ทสกีและการแข่งขันกีฬาทางน้ำ เป็นต้น, การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งนักท่องเที่ยวให้ความสนใจการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ

การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มมูลค่าและมูลค่าจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ศาสนาและวัฒนธรรม อาหารใต้ อาหารฮาลาล ศิลปะการแสดง การแต่งกาย เป็นต้น และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งเป็นการนำกีฬาทางบก ทางน้ำ ทางอากาศมาบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างการรับรู้ถึงคุณค่าทางกีฬา ซึ่งกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ จะทำให้ภูเก็ตและพื้นที่เชื่อมโยงเกิดการจ้างงาน กระจายรายได้ เพิ่ม GDP ส่งผลให้มีมูลค่าเศรษฐกิจสูงขึ้น รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรไทย พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีทางการแพทย์และระบบริการด้านสาธารณสุขของไทยให้เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก

ทั้งหมดนี้เป็นนโยบายในการ “พลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทย สู่มิติใหม่ เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” โดยมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวที่เน้นคุณค่า มีความสามารถในการปรับตัวสู่การเติบโตอย่างทั่วถึง ยั่งยืนและสมดุลโดยมีความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ อันจะนำมาสู่ความเจริญทางเศรษฐกิจต่อประเทศต่อไป นายพิพัฒน์ กล่าว

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่