“ขณะนี้งานมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดทดลองให้รถยนต์วิ่งขึ้นเขาได้ช่วงหนึ่ง และหลังจากที่มีการเร่งบดอัดดิน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ปิดไม่ให้รถยนต์ขึ้นเขาได้อีกครั้งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ล่าสุดวันนี้หลังผู้รับเหมาได้มีการเร่งรัดในเรื่องของการบดอัดดินในจุดดังกล่าว เพื่อทำให้ฐานรากมีความแข็งแรงแล้วภายใน 3 วัน ก็จะสามารถเปิดให้รถยนต์ใช้เส้นทางขาขึ้นจากกะทู้ได้อีก แต่หากมีฝนตกลงมาอีกก็อาจทำให้การเปิดทางล่าช้าไปอีกเล็กน้อย” นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายพิเชษฐ์ อธิบายเพิ่มเติมถึงการสร้างฐานในจุดที่ไหล่ทางชำรุดมากกว่า 70 เมตรจากมีดินสไลด์ว่า ทางผู้รับจ้างได้ใช้หินขนาดใหญ่วางเป็นฐานในระดับที่ต่ำกว่าผิวดินปกติ
“ตอนนี้เครื่องจักรกำลังที่จะทำงานชั้นของคันทาง โดยหลักคันทางจะใช้หินใหญ่มีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 700 กิโลกรัม เป็นฐานในการล็อกไหล่ทางเอาไว้ ความยาวของไหล่ทางที่ชำรุด 70 กว่าเมตร หินที่ใช้จะขุดต่ำไปกว่าระดับผิวดินปกติ 1 เมตร และจะถมหินขึ้นมาสูงสัก 3 เมตร จากนั้นเราก็จะใช้พวกหินเล็กไปปิดช่องว่างระหว่างหินใหญ่” นายพิเชษฐ์ กล่าว
“ต่อจากนั้นเราก็ใช้แผ่นฮิวเท็กซ์ไทล์ปกปิด โดยจะใช้งานดินผสมซีเมนต์หรือหินดินซีเมนต์ เพื่อที่จะให้ดินผสมกับซีเมนต์สามารถแข็งตัวและทรงตัวได้ สามารถที่จะทำงานในระดับดินลาดชันที่ค่อนข้างสูงได้ สามารถที่จะรองรับน้ำหนักการจราจรด้านบนได้ มาตรฐานอย่างน้อย 95% ของฐาน เพื่อที่จะให้ดินนั้นมีความแน่นเพียงพอของซีเมนต์กับดิน เพื่อทำงานคั่นทางได้ เพื่อจะขึ้นไประดับขั้นพื้นฐาน และจะเปิดการจราจรชั่วคราวระดับรถ 4 ล้ออีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้ความสูงของ จากชั้นข้างทางที่ซับพอร์ทจากคันทางเดิมสักประมาณครึ่งหนึ่งของความสูง ถือว่ามีความปลอดภัยระดับหนึ่งที่รถ 4 ล้อสามารถวิ่งขึ้นได้”
“เพราะฉะนั้นงานวันนี้พยายามเร่ง ให้การก่อสร้างคันทางนั้นขึ้นได้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน รถเล็กหรือรถสี่ล้อสามารถผ่านได้ก่อน ท่านนายกฯ กับผู้ว่าราชการจังหวัดท่านก็ห่วงใย ผมจะดูแลด้านทางเทคนิควิศวกรรมการก่อสร้างว่าจะต้องมีความแข็งแรงควบคู่กันไป และการเร่งรัดของงานตามหลักความถูกต้องตามวิชาการต่อไป” นายพิเชษฐ์ กล่าว
ที่มา: ปชส. จังหวัดภูเก็ต
