เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.66 พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3 เดินทางมาราชการยังจังหวัดภูเก็ต เพื่อประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาเเนวทางการปัญหาการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยมี พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3, พ.ต.ท.บรรณพงศ์ เก่งเรียน, พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ รอง ผกก.2 บก.ทท.3, พ.ต.ท.ศักรินทร์ อนุสามัญสกุล สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 ร่วมรับการตรวจราชการ
โดยในเวลาประมาณ 10.30 น. ได้ทำการตรวจเยี่ยมหน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยวสนามบินภูเเก็ต เน้นย้ำการออกตรวจเรื่องรถสาธารณะ การดูเเลนักท่องเที่ยว
จากนั้นในเวลาประมาณ 11.00 น. ทาง ผบก.ทท.3 ประชุมร่วมกับการท่าอากาศยานภูเก็ต, ผกก.ตม.ทอ.ภูเก็ต, ผกก.สภ.สาคู, บริษัททัวร์ นิวเซาท์ ทราเวล จำกัด ถึงการเเก้ไขปัญหารถลีมูซีน, รถตู้นำนักท่องเที่ยวจอดเเวะบริษัททัวร์โดยที่นักท่องเที่ยวไม่เต็มใจ โดยทางการท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ลงโทษโดยการปรับเป็นจำนวนเงินประมาณ 180,000 บาท เเก่สหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ตจำกัด ที่ผิดสัญญาสัมปทาน พร้อมทั้งพักใช้ใบอนุญาตเเก่รถตู้คันที่ละเมิดกฎของสหกรณ์เเล้ว พร้อมทั้งได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยเเก่นักท่องเที่ยวกลับคืนมา ณ ห้องประชุม การท่าฯ ชั้น 5 สนามบินภูเก็ต
ต่อมาในเวลาประมาณ 14.00 น. ผบก.ทท.3 ได้ตรวจเยี่ยม ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 พร้อมทั้งได้กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูเเลนักท่องเที่ยว การวางเเผนการออกตรวจตามเเบบตรวจ 19 แบบ ให้เป็นไปตามวงรอบของการตรวจ ณ ห้องประชุม ศปก.กก.2 บก.ทท.3 อ.เมืองภูเก็ต และในเวลาประมาณ 15.00 น. ได้ร่วมประชุมหารือกับ ททท.ภูเก็ต, ทกจ.ภูเก็ต, สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวเเละมัคคุเทศก์ฯ, ขนส่งจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับการหามาตรการบังคับใช้กฎหมายรถสาธารณะที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ณ ห้องประชุม ศปก.กก.2 บก.ทท.3
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของระยะเวลาในการพักใช้ใบอนุญาต ของคนขับที่มีการทำผิดสัญญาสัมปทานนั้น ทางตำรวจท่องเที่ยวมิได้ระบุในรายงาน ทางด้านขนส่งจังหวัดภูเก็ตยืนยันว่า ในทุกกรณีที่ผู้ให้บริการรถรับจ้างกระทำความผิดจริง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการอย่างเข้มงวดตามกฎหมายของกรมการขนส่งต่อไป