สตม.ขยายผลรวบตัวการใหญ่เครือข่ายต่างชาติผิวสีค้ายาในภูเก็ต ของกลางมูลค่ากว่า 5 ล้าน

ภูเก็ต – เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. สตม. แถลงข่าวผลการขยายผลทลายเครือข่ายต่างชาติผิวสีค้ายาเสพติดของกลางมูลค่าร่วม 5 ล้านบาทณ ห้องสวนพลู (ห้องแถลงข่าว) ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤษภาคม 2567, เวลา 11:33 น.

ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมกับ ชุดสืบสวน บก.ปส.4 และ ชุดสืบสวน ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 จับกุมคนต่างชาติ จำนวน 4 ราย ดังนี้

1. นาย Denis (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติรัสเซีย โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต จว.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย 2. นาย Ogadinma (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติไนจีเรีย 3. นาย Harison (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติไนจีเรีย โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน จว.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

และ 4. นาย Solomon (นามสมมติ) อายุ 53 ปี สัญชาติ ไนจีเรีย โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์และยาอี) และยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จว.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

สืบเนื่องจาก ตม.จว.ภูเก็ต ได้กวดขันจับกุมคนต่างด้าวที่มีเจตนาแอบแฝงไม่ได้เข้ามาท่องเที่ยวหรือมาประกอบกิจการอันดี โดยเมื่อประมาณต้นเดือน เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต สืบสวนหาข่าวจากกลุ่มลับของคนต่างด้าวสัญชาติรัสเซีย พบว่า นายเดนิส (ทราบชื่อภายหลัง) สัญชาติรัสเซีย เสนอว่าตนปล่อยรถเช่ารับแลกเงินคริปโต ชุดสืบสวนจึงได้แฝงตัวเข้าไปทักถามเป็นภาษารัสเซีย ทราบว่านายเดนิสได้นำเสนอว่าตนมียาเสพติด (โคเคน) จำหน่ายในราคากรัมละ 4,000 บาท จึงได้วางแผนพิสูจน์ทราบและจับกุม ต่อมาได้ติดต่อนัดหมายซื้อโคเคนจากนายเดนิสที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.วิชิต โดย ตม.จว.ภูเก็ต ได้ร่วมกับชุดสืบสวน บก.ปส.4 และ ชุดสืบสวน ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 เข้าตรวจสอบ เมื่อพบนายเดนิสเข้ามายังสถานที่นัดพบจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติด (โคเคน) บรรจุในหีบห่อ น้ำหนักรวม 0.99 กรัม จึงได้จับกุมพร้อมยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนขยายผล ทราบว่านายเดนิสซื้อโคเคนมาจากชายต่างชาติผิวสี 2 คน ในราคากรัมละ 3,000 บาท โดยชายผิวสีดังกล่าวจะใช้รถยนต์ยี่ห้อ มาสด้า สีแดง เป็นยานพหานะในการส่งยาเสพติด จึงได้ให้นายเดนิสติดต่อให้มาพบในวันเดียวกัน โดยนัดหมายกันบริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.กะรน เมื่อรถยนต์คนดังกล่าวขับเข้ามาในที่นัดหมาย ชุดสืบสวนได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบโคเคนซุกซ่อนอยู่ที่บนพื้นรถยนต์ด้านคนขับ 1 ห่อ น้ำหนัก 1.4 กรัม โดยมีนายแฮริสัน (นามสมมติ) อายุ 40 ปี และนายโอกาดินมา (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติไนจีเรีย เป็นผู้นำยาเสพติดดังกล่าวมาส่ง จึงได้จับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบสวนพบว่านายแฮริสันและนายออกาดินมาได้ทำการซื้อขายยาเสพติดหลายครั้ง โดยขับรถไปรับยาเสพติดจากบังกะโลแห่งหนึ่งใน ต.ฉลอง อ.เมือง จว.ภูเก็ต บ่อยครั้ง เมื่อได้ข้อมูลที่แน่ชัด จึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบนายโซโลโมน (นามสมมติ) อายุ 53 ปี สัญชาติ ไนจีเรีย อาศัยอยู่ในบังกะโลหลังดังกล่าว จากการสอบถามนายโซโลโมนรับว่ามีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว โดยมียาเสพติดฝังไว้บริเวณหลังบังกะโล และได้พาชุดสืบสวนไปขุด

พบของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ห่อหุ้มด้วยแผ่นพลาสติก บรรจุในขวดโหล จำนวน 855 เม็ด 2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ห่อหุ้มด้วยพลาสติก น้ำหนักต่อชิ้นประมาณ 1 กรัม บรรจุในขวดโหล จำนวน 470 ห่อ 3. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) บรรจุในเป็นห่อ น้ำหนักรวม 127.8 กรัม 4. บัญชีธนาคาร จำนวน 1 เล่ม โดยพบบัญชีธนาคารอีก 1 เล่มที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องอยู่ภายในบ้านพักด้วย จึงได้จับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินอื่น นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนทราบว่าราคาซื้อขายยาเสพติดในจังหวัดภูเก็ตที่ลักลอบจำหน่าย ยาอี ราคา เม็ดละ 1,000 -2,000 บาท โคเคน กรัมละ 4,000 -5,000 บาท รวมราคายาเสพติดของกลางประมาณ 4 ล้านบาท ในส่วนของทรัพย์ที่ตรวจยึดตามมาตรการปราบปรามยาเสพติด ประกอบด้วยรถยนต์และเงินสดอีก ประมาณมูลค่า 9 แสนบาท รวมมูลค่าของกลางประมาณ 4.9 ล้านบาท กรณีนายโซโลโมนถือเป็นตัวการรายใหญ่ในระดับพื้นที่ภูเก็ต โดยมีการรับของมาจากพื้นที่ภาคกลาง และจะกระจายให้กับผู้ค้าและผู้เสพรายย่อย ซึ่งมีหลายสัญชาติในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะได้สืบสวนและรวมรวมข้อมูลกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพื่อสืบสวนจับกุมและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมต่อไป

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่