สตม.ยัน จับสมาชิกวงร็อกรัสเซีย BI-2 เหตุไม่มีใบอนุญาตทำงาน ไม่เกี่ยวกับการเมือง รอส่งตัวกลับ

กรุงเทพฯ - วันนี้ (31 มกราคม 2567) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เปิดเผยถึงกรณีที่สมาชิกวงร็อกรัสเซีย ’BI-2’ จำนวน 7 คน ถูกเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงานหลังเดินทางเข้ามาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา

ข่าวภูเก็ต

วันพุธ ที่ 31 มกราคม 2567, เวลา 17:10 น.

ทั้งนี้ มีรายงานระบุว่า วง BI-2 วงร็อกชาวรัสเซีย เป็นวงดนตรีที่มีจุดยืนต่อต้าน “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” ของรัสเซียในยูเครน จนถูกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวหาว่า สนับสนุนการก่อการร้าย เพราะต่อต้านรัสเซียและประกาศสนับสนุนยูเครน จนทำให้นักสิทธิมนุษยชนหลายฝ่ายกังวลว่า สมาชิกบางคนในวงที่มีสัญชาติรัสเซีย ที่อาจจะถูกส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง ต้องเผชิญกับอันตราย หากรัฐบาลไทยส่งผลักดันกลับประเทศรัสเซีย ถือเป็น “กรณีแรกในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน” และถือเป็นการละเมิดสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่นายกรัฐมนตรีเคยประกาศไว้ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก เมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมาหรือไม่

ในกรณีดังกล่าว รอง ผบ.สตม. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเมื่อพบผู้กระทำความผิด ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีและส่งตัวเข้าห้องกักที่ สตม.ตามขั้นตอน ซึ่งเป็นความผิดฐานไม่มีใบอนุญาตทำงาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองแต่อย่างใด

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า ในส่วนประเด็นเรื่องการผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง ขณะนี้ได้ทำการผลักดัน 1 ในสมาชิกของวงไปแล้ว แต่ไม่ใช่ประเทศรัสเซีย สำหรับบางคนในสมาชิกวงที่ถือ 2 สัญชาติ หากไม่ยินยอมกลับไปที่ประเทศต้นทางตามหนังสือเดินทางเข้าประเทศ ก็ต้องประสานไปยังประเทศที่ 3 ที่บุคคลนั้นถือสัญชาติว่าพร้อมที่จะรับตัวเข้าประเทศหรือไม่

ส่วนเรื่องสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เมื่อปี 2566 คณะรัฐมนตรีฯ ได้ร่างหนังสือสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไประหว่างไทยกับรัสเซีย โดยผ่านการพิจารณาจาก ครม.แล้ว แต่ยังไม่ชัดเจนว่าสนธิสัญญาบรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศแล้วหรือไม่ ช่วงบ่ายของวันนี้ทาง ตม.จะเข้าร่วมประชุมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของประเทศ เพื่อพิจารณาในการผลักดันสมาชิกวงดนตรีดังกล่าวกลับประเทศต้นทาง

กรณีข้อสอบถามที่ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่อาจจะเข้าข่ายผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลหรือไม่ รอง ผบ.สตม. กล่าวว่า ตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ให้ยกเว้นกรณีนักโทษทางการเมือง การเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ หากบุคคลเหล่านั้นไม่ได้ทำความผิดในคดีอาญาหรือก่อเหตุอาชญากรรม โดยขั้นการส่งกลับประเทศ หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ทาง สตม.ไม่สามารถบังคับให้ออกนอกประเทศได้ กล่าวคือให้กักตัวไว้จนกว่าจะพร้อม

นอกจากนี้ตัวผู้กระทำความผิดสามารถยื่นขอหน่วยงานสากล อาทิ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) หรือ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองได้ หากเข้าข่ายตามหลักสิทธิมนุษยชน และสามารถประกันตัวออกมาอาศัยในฐานะผู้ลี้ภัยได้แต่มีข้อแม้ห้ามประกอบอาชีพหรือกระทำการใดๆ ที่ผิดต่อกฎหมายของประเทศนั้น

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่