สปสช.แนะหญิงไม่พร้อมตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 20 ตรวจสิทธิ์ฝังยาคุมผ่านเป๋าตัง รับบริการฟรี

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แนะหญิงที่ไม่พร้อมตั้งครรภ์ตรวจสอบสิทธิ์ฝังยาคุมกำเนิดผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก่อนใช้บริการที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 6 พฤษภาคม 2565, เวลา 09:00 น.

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ทันตแพทย์ อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า สปสช. ตั้งเป้าหมายฝังยาคุมกำเนิดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มผู้หญิงที่ยังไม่มีความพร้อมตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 20 ปี ในปีนี้ จำนวน 9,280 คน และกลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไปที่ยุติการตั้งครรภ์ 1,159 คน นอกจากนี้ยังได้ประสานธนาคารกรุงไทย พัฒนาแอปฯ เป๋าตัง ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิ์ก่อนนัดหมายเข้ารับบริการยังสถานพยาบาลใกล้บ้าน

“ตามที่มีการนำเสนอข่าวบนสื่อออนไลน์ที่ตั้งข้อสังเกตการเข้ารับบริการฝังยาคุมกำเนิด ฟรี สิทธิประโยชน์บริการคุมกำเนิดถาวร ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” นั้น สปสช.ขอเรียนชี้แจงว่าบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรเป็นบริการภายใต้กองทุนบัตรทอง นอกจากบริการใส่ห่วงอนามัยแล้ว ยังรวมถึงบริการฝังยาคุมกำเนิด รวมถึงลดการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย ทพ.อรรถพร กล่าว

ผู้ที่เข้าเกณฑ์สามารถเข้ารับบริการบริการที่หน่วยบริการระบบบัตรทอง หรือระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ร่วมบริการตามความสะดวก โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์การรับบริการดังนี้
• กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ต้องการคุมกำเนิด หรืออยู่ในภาวะหลังคลอด หรือหลังแท้ง
• กลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไป เฉพาะกรณีหลังยุติการตั้งครรภ์

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การบริการฝังยาคุมกำเนิด สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณรองรับบริการให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงบริการใส่ห่วงอนามัย ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่จำนวน 103.21 ล้านบาท กำหนดเหมาจ่ายบริการฝังยาคุมกำเนิดในอัตรา 2,500 บาทต่อราย โดยในช่วง 6 เดือน ปีงบให้บริการแล้วจำนวน 10,439 ราย เบิกจ่ายค่าบริการจำนวน 39,871,800 บาท แยกเป็นบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรทั้งบริการฝังยาคุมกำเนิดและบริการใส่ห่วง ในหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 9,280 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ จำนวน 36,987,900 บาท และในหญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป กรณีหลังยุติตั้งครรภ์ จำนวน 1,159 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ จำนวน 2,883,900 บาท

อย่างไรก็ตามการเข้ารับบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์บริการ ซึ่งในกรณีผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จะครอบคลุมทุกคนที่ต้องการรับบริการ แต่กรณีอายุ 20 ปีขึ้นไป กำหนดให้สิทธิเฉพาะผู้ที่ยุติการตั้งครรภ์เท่านั้น สำหรับเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับมานี้ สปสช.ยินดีรับฟังและนำมาปรับปรุง โดยในส่วนของแอปเป๋าตัง สปสช.ได้มีประสานไปยังธนาคารกรุงไทยเพื่อเพิ่มเติมข้อความที่ระบุว่า “กรณีอายุเกิน 20 ปีให้อยู่ในดุลพินิจของแพทย์” เพื่อขยายความให้ชัดเจนในการเข้ารับบริการ และ สปสช.จะเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจต่อไป

ทั้งนี้บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในแอปเป๋าตังนั้น ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบสิทธิที่ท่านจะได้รับตามกลุ่มวัยและเพศของท่านได้ โดยเข้าไปที่กระเป๋าสุขภาพ เมื่อลงทะเบียนแล้วจะปรากฏรายละเอียดสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน และสามารถตรวจสอบสิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพที่ท่านได้รับได้ เฉพาะในพื้นที่ กทม.ขณะนี้นำร่องสามารถจองคิวนัดหมายเข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้

ผู้สนใจสามารถใช้สิทธิ์ได้ทันทีตลอดปีงบประมาณ 65 สำหรับการสนับสนุนการฝังยาคุมกำเนิด เพื่อลดปัญหาการลืมกินยาคุมกำเนิด และหากภายหลังต้องการตั้งครรภ์สามารถให้แพทย์นำยาคุมกำเนิดดังกล่าวออกได้

สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง ได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. (ไลน์ไอดี @nhso) หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ / สปสช.

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่