จากรณีมีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวในโลกโซเชียลว่า ได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรฉลอง จังหวัดภูเก็ต ให้มาสอบปากคำเป็นพยานในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต โดยผู้โพสต์ยืนยันว่า ได้สมัครใช้สิทธิ์และเดินทางมาใช้สิทธิ์ด้วยตัวเองจริง แต่ถูกหมายเรียกให้เดินทางมาให้ปากคำ พร้อมระบุว่า หากเขาไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้ง จะถูกออกหมายจับ จึงได้เดินทางด้วยเครื่องบินมายังภูเก็ตเพื่อให้ปากคำ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าเดินทาง และที่พัก รวมทั้งค่าอาหาร ในระหว่างที่เดินทางมาให้ปากคำ จนมีผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวที่ สภ.ฉลอง โดยพบว่าได้มีการนำเต็นท์มาวางไว้ที่หน้าสถานีตำรวจชั่วคราว และมีประชาชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมารอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ได้ให้ข้อมูลว่า สำหรับกรณีมีผู้ได้รับหมายเรียกจาก สภ.ฉลอง ให้มาให้ปากคำเป็นพยานกับพนักงานสอบสวนในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งได้มีพยานท่านหนึ่งหลังจากได้รับหมายเรียก ก็ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มายัง สภ.ฉลอง และได้โพสต์เรื่องราวลงในโลกโซเชียลดังกล่าวนั่น ขอให้ข้อมูลสำหรับประชาชนที่ได้รับหมายเรียก สามารถติดต่อมายัง สภ.ฉลอง เพื่อขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธร หรือสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ที่ตัวเองพักอาศัยอยู่ได้ โดยทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะแนะนำให้ผู้ที่ได้รับหมายเรียกไปดำเนินการตามคำแนะนำ โดยไม่ต้องเดินทางมายัง สภ.ฉลอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับท่านที่ได้รับหมายเรียกแล้วเดินทางมาให้ปากคำเป็นพยานที่ สภ.ฉลอง จะได้รับเงินค่าพยานรายละ 300 บาท ส่วนพยานที่เดินทางจากต่างจังหวัดมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ จะไม่สามารถเรียกร้องค่าเดินทาง และที่พักกับทางพนักงานสอบสวนได้