หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพบศพผู้ตายเป็นเพศหญิง อายุ 14 ปี สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น บริเวณลำคอมีร่องรอยเขี้ยวคล้ำจากการผูกคอและมือทั้ง 2 ข้างกำหมัดเกร็ง นั่งพิงอยู่ใต้ช่องหน้าต่างบานเกล็ด ข้างโต๊ะและเก้าอี้พลาสติก และยังพบสายไฟสีดำวางอยู่บนโต๊ะ ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร่ายแต่อย่างใด
ตาของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายได้พักอาศัยอยู่กับตน เพราะพ่อแม่ได้เลิกราและไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนเป็นผู้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ๆ โดยผู้ตายมีลักษณะนิสัยคล้ายทอมบอย และกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ม.2 โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายไปนั่งเล่นที่บ้านญาติ ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไม่มากนัก จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. จึงเดินทางกลับบ้านพักและผู้ตายจะเข้าไปนั่งเล่นภายในห้องเก็บของที่ติดกันเป็นประจำ
จากนั้นตนจึงเข้านอนตามปกติ กระทั่งวันที่ 23 มี.ค.65 เวลาประมาณ 06.00 น. ตนได้ไปเรียก แต่ผู้ตายไม่ตอบรับและประตูห้องปิดล็อคอยู่ภายใน แต่ได้ยินเสียงเพลงเปิดอยู่ ตนจึงยังไม่เอะใจ เนื่องจากผู้ตายจะตื่นสายเป็นประจำ ต่อมาเวลา 08.00 น. ตนได้ไปเรียกอีกแต่ไม่ตอบรับเหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. ก็ได้มาเรียกอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ ตนจึงได้เปิดกระจกบานเกร็ดหน้าต่างดู จึงพบว่าหลานสาวได้ผูกคอตาย ตนจึงได้ถีบประตูเข้าไป ซึ่งพบว่าหลานใช้เชือกสายไฟสีดำผูกคอตายกับขื่อหลังคาในสภาพก้นแตะถึงพื้น
จากนั้นจึงได้แจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ทาง ร.ต.อ.ไกรสร เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายแต่อย่างใด โดยผู้ตายไม่ได้มีปัญหากับใคร แต่ทราบเพียงว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.เวลาประมาณ 01.00 น. ผู้ตายได้โทรหามารดาพูดน้อยใจเรื่องการเรียน เนื่องจากผู้ตายติด “ร” แต่ไม่มีผู้ใดเอะใจว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว
ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ร่วมกับแพทย์นิติเวชโรงพยาลวชิระภูเก็ตชันสูตรศพผู้ตาย ในเบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการผูกคอตาย และคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชม. จึงได้นำศพผู้ตายไปที่โรงพยาบาลถลางเพื่อชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป
หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังมีปัญหาหรือตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า โปรดติดต่อ สมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย สายด่วน 02-113-6789 (อังกฤษและไทย) หรือ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 (ไทย) ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง