และในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เธอก็จะได้หวนคืนสู่ความท้าทายนั้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอจะทำมันไปพร้อมกับ “กัส” ลูกชายวัย 7 ขวบครึ่งของเธอ The Phuket News รายงาน
การผจญภัยไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับน้องกัส เพราะเขาเองได้เปิดตัวช่องยูทูบของตัวเองในชื่อ “Gusman - what to do in Phuket” ซึ่งจะพาคุณไปพบกับการผจญภัยในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นกระดานลื่น ปีนเขา สเก็ตบอร์ด เล่นกระดานโต้คลื่น และอื่น ๆ อีกมากมาย
น้องกัสและแม่แนนได้เตรียมความพร้อมโดยการเดินไปตามเส้นทางต่าง ๆ รอบเกาะภูเก็ต โดยคุณแนนเล่าว่าเธอได้นำเอาระบบการฝึกฝนอันเข้มงวดมาใช้ เพื่อให้ร่างกายของทั้งคู่ฟิตที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับความท้าทายที่จะเกิดขึ้น เพราะพวกเขาจะต้องเดินป่าประมาณ 6 - 7 ชั่วโมงในแต่ละวันที่เนปาล ดังนั้นการฝึกของพวกเขาจึงจำเป็นต้องทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาเดินทางไปที่จังหวัดกระบี่ เพื่อฝึกฝนบนขั้นบันได 1,260 ขั้น ณ วัดถ้ำเสือ สู่เขาหงอนนาค และแน่นอนว่าทั้งคู่ขอแนะนำเส้นทางการเดินเหล่านี้แก่ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ไปลองสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงามและรับรองว่าคุ้มค่ากับความพยายามอย่างแน่นอน
ทั้งคู่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมเล็ก ๆ ซึ่งรวมถึง มิเชลล์ ฮอสแซค และ เชอร์รี ดรอเล็ต จากภูเก็ต โดยมิเชลล์เพิ่งกลับมาจากการแข่งขัน World Masters Athletics Championships ในเมืองตัมเปเร ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งเธอได้รับรางวัลเหรียญทองและเหรียญเงิน ส่วนเชอร์รี่ที่พักอาศัยอยู่ที่ภูเก็ตมานานกว่า 17 ปี ก็เป็นที่รู้จักกันในนามนักไตรกีฬาที่ยังคงความฟิตได้อย่างต่อเนื่อง
การจัดการกับระดับความสูงจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด เนื่องจากพวกเขาอาศัยและฝึกฝนในสภาพระดับน้ำทะเลอย่างต่อเนื่องที่จังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตาม แผนการเดินทางของพวกเขาได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศในระยะเวลา 2 วันให้ร่างกายคุ้นเคยกับกรณีที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอ
ค่ายฐานภูเขาเอเวอเรสต์ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 5,360 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ต่ำกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์อันสูงตระหง่าน และเป็นที่ที่ทีมตั้งแคมป์และเตรียมตัวก่อนที่จะพยายามขึ้นสู่ยอดเขา ในปี 2557 ได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อน้ำแข็งตกลงมาเหนือค่ายฐานซึ่งคร่าชีวิตชาวเชอร์ปาไป 16 คน ตามมาด้วยแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ล้านครั้งในปี 2558 ทำลายล้างพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศเนปาล คร่าชีวิตผู้คนไป 9,500 คน และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 3.5 ล้านคน รวมถึงสาเหตุจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางไม่ได้ เนปาลต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว ในช่วงเวลาที่ประเทศเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัว
อุณหภูมิในช่วงเวลานี้ของปีลดลงเหลือประมาณ -12°C ในตอนกลางคืน และ -3°C ในตอนกลางวัน กัสที่เพิ่งเดินทางกลับจากการเดินทางไปออสเตรเลียซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า 40°C กล่าวว่า เขาตั้งตารอที่จะได้เห็นหิมะและโยนมันใส่พ่อของเขา
เควิน แมนส์ฟิลด์ ผู้ดำเนินงานนี้กล่าวว่า ทีมของเขาพร้อมรับมือกับสภาพอากาศหนาวเย็น เพราะพวกเขาเคยเดินป่าที่นั่นมาก่อน และรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ณ ที่แห่งนั้น
น้องกัส นักเรียนโรงเรียนขจรเกียรติถลางได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากอาจารย์และเพื่อน ๆ เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของเขา เขากล่าวว่า “ผมจะทำให้ดีที่สุด ผมคิดว่าผมทำได้” ซึ่งเป็นคำกล่าวที่คล้ายกันกับที่แม่ของเขาได้กล่าวเอาไว้เมื่อปี 2557
น้องกัสเชิญชวนทุกคนให้ติดตามช่องยูทูบของน้อง ซึ่งจะมีการโพสต์อัปเดตอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มในการเดินทางและภารกิจพิชิตฐานของภูเขาที่สูงที่สุดในโลกในครั้งนี้
