สาวร้องสื่อไฟแนนซ์บุกยึดรถถึงที่พัก พร้อมข่มขู่ หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย

ภูเก็ต - จากกรณีเพจดังภูเก็ตโพสต์สาวร้องสื่อ ขอความเป็นธรรมกรณีมีกลุ่มผู้อ้างตัวเป็นไฟแนนซ์ เข้ามาทวงหนี้ ข่มขู่ โดยใช้อาวุธ เป็นท่อนเหล็ก และทำการยึดรถไป ล่าสุดสาวรายดังกล่าวและแฟนหนุ่มได้เข้าแจ้งความแล้วเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา กับว่าที่ พ.ต.ต สุระ เลิศไธสง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 30 พฤษภาคม 2566, เวลา 16:24 น.

สาวร้องสื่อไฟแนนซ์บุกยึดรถถึงที่พัก พร้อมข่มขู่ หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย

สาวร้องสื่อไฟแนนซ์บุกยึดรถถึงที่พัก พร้อมข่มขู่ หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย

โดยแจ้งว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.66 เวลา 16.00 น. ในขณะที่นางสาวณัฐนันท์ เพชรมาก แฟนสาวของ นายสรศักดิ์ ว่องไวประเสริฐ ผู้แจ้งที่ห้องพัก ในโรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 3 ถนนรัษฎานุสรณ์ ต.รัษฎา ได้มีกลุ่มชายหญิงไม่ทราบชื่อและนามสกุล โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคาร และหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหนี้ของนางสาวณัฐนันท์ ชื่อจริงว่า นางสาวประภัสสร คนเที่ยง หรือชื่อเล่นว่าพีท รวมประมาณ 7 คน ได้มาหานายสรศักดิ์ โดยแจ้งว่ามายึดรถเก๋งรุ่นโตโยต้า สีดำ ปี 2014 หมายเลขทะเบียนภูเก็ต ซึ่งมีนายสรศักดิ์เป็นผู้ครอบครอง และให้ออกมาข้างนอก

จากนั้นได้ข่มขู่นายสรศักดิ์โดยหนึ่งในนั้นถืออาวุธเป็นแท่งของแข็งยาวประมาณ 1 เมตร นายสรศักดิ์กับนางสาวณัฐนันท์เกิดความกลัว จึงได้วิ่งหลบหนีเข้ามาอยู่ในห้อง จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้รถยกลากรถของนายสรศักดิ์ไป ซึ่งไม่ยินยอมให้ทำการยึดรถคันดังกล่าว นายสรศักดิ์ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ในความผิดที่เกี่ยวข้อง จนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.ณัฐ อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันที่เกิดเหตุมีทีมไฟแนนซ์เข้ามายึดรถของตน ตนยอมรับว่าค้างผ่อนจริง และยินยอมที่จะคืนโดยดี แต่เอกสารการยึดรถและกริยามารยาทของกลุ่มคนดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างมาก ซึ่งได้เดินเข้ามาในหอและเข้าไปในที่พักของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเคาะประตูที่ห้องของตนเสียงดังมาก พร้อมบอกว่าทีมไฟแนนซ์จะมายึดรถให้ออกมาคุย

ตนยอมรับว่าได้กู้เงินนอกระบบมาจริง ได้มีปัญหาเรื่องการจ่ายดอก คุยกันไม่ลงตัว เลยทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน ทางเจ้าหนี้เคยโทรมาขู่ครั้งหนึ่ง เมื่อแฟนมาเจอแฟนก็ตกใจ ที่เห็นผู้ชายทำท่าเหมือนจะมาจับตัวเรา แล้วเรียกแฟน แต่แฟนคิดว่าไม่ปลอดภัยจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้อง จังหวะที่เข้าไปหลบในห้อง ตนเห็นเขาหยิบของคล้ายกระบองเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร เพื่อจะเดินเข้าไปข้างใน เราไม่รู้จุดประสงค์ จึงไม่ออกมาและโทรหาตำรวจ เพื่อให้มาดูแลความปลอดภัย พอตำรวจมาถึงเขาก็เรียกเราออกมาคุย แฟนออกมายกมือไหว้ขอโทษไปแล้ว และขอให้คุยกันดี ๆ

“จากนั้นมีทีมไฟแนนซ์วิ่งออกมาจากรถแล้วบอกว่าเอาเลยไหม แฟนก็เลยตกใจและวิ่งกลับมา ตอนนั้นตำรวจอยู่แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์อะไรได้ เราเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะ ตำรวจคอยมาห้าม กลัวเราโดนทำร้ายก่อน เราจึงหลบเข้าไปอยู่ในห้องคิดว่าไม่ออกไปคุยแล้ว ตำรวจเรียกเราออกไปคุย เพราะเขาอยู่นานไม่ได้ เพราะมีเหตุที่ต้องไปที่อื่นต่อ” น.ส.ณัฐ กล่าว “เรากลัวเรื่องความปลอดภัยจึงไม่ออกไปคุย และตัดสินใจโทรหาน้าให้มา พอน้ามาถึงรถลากก็มาแล้ว ตอนนั้นเขาไม่ได้แสดงบัตร เราไม่กล้าให้รถไป”

น.ส.ณัฐ กล่าวอีกว่า ทางกลุ่มคนที่มาได้มีการพูดจาข่มขู่และสุดท้ายก็เอารถของตนไปในที่สุด พร้อมตกลงกันว่านำรถลากนี้พาไปโรงพัก แล้วมีการเขียนว่ารับรถไปจริง แต่ตนไปรอแล้วก็ไม่เห็นมา ทั้งนี้เธอยังตั้งข้อสงสัยว่าทางเจ้าหนี้รู้ได้อย่างไรว่าตนค้างยอดรถกับบริษัทนี้ และทราบที่อยู่ของตนได้อย่างไร

“ทางผู้กำกับได้เข้าเรียกพบพูดคุยแล้ว ซึ่งท่านให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี คาดว่าคดีนี้จะดำเนินได้เร็วที่สุด” เธอกล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่