บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น สภาพภายในบ้านอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไม่มีชิ้นดี ประตูบ้านโดนงัดออก สายไฟที่เดินภายในบ้านโดนดึงออกสวิตช์ไฟโดนงัดออกอุปกรณ์ ภายในเครื่องแอร์ โดนงัดออกมาทั้งหมดเหลือแต่โครงพลาสติกซึ่งติดอยู่กับผนังฝ้าเพดาน สำรวจภายในห้องนอนตามตู้เสื้อผ้าต่าง ๆ โดนรื้อค้นกระจัดกระจายไปทั่ว ไม่เป็นชิ้นดี
น.ส.พัชณ์ศมณ ชมญ์ปณัฏฐ์ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวตนไม่ได้อยู่มานานแล้ว ตนได้ล็อคเอาไว้อุปกรณ์ ทุกอย่างใช้ได้ปกติ ในบ้านคือบ้านพร้อมอยู่ 100% แต่ไม่ได้ขึ้นไปดูบ้านเลย หลังจากที่ได้ปิดบ้านไว้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 63 เพราะโควิด นับเป็นเวลามากกว่า 2 ปี
เธอเล่าต่อไปอีกว่าได้กลับมาภูเก็ตเมื่อเดือนธันวาคมปี 64 แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในบ้าน เพราะน้ำไฟโดนตัดไปแล้ว ได้แต่เข้าไปปัดกวาดเช็ดถูประมาณ 3-4 ครั้ง
“แต่สิ่งที่เราพลาดคือ เราทิ้งระยะห่างจากครั้งสุดท้ายนานมาก แต่เราไม่คิดว่านะไม่น่าจะมีอะไร จนมาถึงเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ขับรถจักรยานยนต์ขึ้นไปยังไม่ถึงตัวบ้าน เห็นแค่ช่วงหน้าบ้านก็พบว่าเหล็กดัดมาอยู่ข้างนอกแล้ว ตอนนั้นรู้แล้วว่าไม่เหลือ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ที่ประตูหน้าต่างไม่มีเลย เราคิดแค่ว่าของในบ้านไม่มีแล้ว เช่น สายไฟหรือเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ได้ แต่พอหันเข้าไปดูในตัวบ้านคือพูดอะไรไม่ออก จุกเลย ไม่รู้จะทำไงต่อ เพราะเราต้องเดินทางด้วย” น.ส.พัชณ์ศมณ กล่าว
“ได้แต่ถามตัวเองว่า ต้องแจ้งความหรือไม่ ต้องทำยังไงต่อ คิดอะไรไม่ออกก็เลยโพสต์ขึ้นมา ตอนแรกโพสต์ในเฟซส่วนตัวว่าของตนหายหมดแล้ว พอมาคิดอีกทีก็เลยคิดว่าเตือนภัยดีกว่า จากนั้นจึงได้ว่าโพสต์เตือนภัยสำหรับผู้ที่ปล่อยบ้านทิ้งเอาไว้แบบเรา” เธอกล่าว
สำหรับมูลค่าความเสียหาย น.ส.พัชณ์ศมณ คาดว่าน่าจะหลักแสน แต่ยังไม่สามารถระบุค่าความเสียหายที่แน่ชัดได้
“เรื่องหาคนขโมยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าตำรวจ ให้จัดการถึงที่สุดตามหน้าที่ของตำรวจ ตอนนี้ต้องจ้างคนมารื้อออกในส่วนที่ใช้ไม่ได้ อย่างแรกเลยตอนนี้ตำรวจมีโครงการฝากบ้านกับตำรวจ ถ้าใครไม่อยู่บ้านให้ติดต่อตำรวจฝากบ้านไว้เลย” เธอกล่าว พร้อมกับยอมรับว่าตนผิดพลาดเรื่องนี้มาก เพราะทิ้งไปแบบกะทันหัน แล้วไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน เพราะมั่นใจว่าตนล็อคบ้านเรียบร้อยแล้ว"
“บ้านมีเหล็กดัดยังไม่เหลือ ยังเอาไม่อยู่เลย ที่โพสต์เพราะอยากเตือนภัย อยากให้ทุกคนไม่ประมาทว่าบ้านเราแข็งแรงทนทานไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ แต่ไม่ใช่เลยทุกคนสามารถเข้าไปได้ อยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งอำเภอ ทั้งเจ้าหน้าตำรวจ ทั้งนักข่าวต่าง ๆ เข้ามาซัพพอร์ตในเรื่องนี้ ทำให้เราไม่เคว้งคว้างเลย ตอนแรกงงมากว่าจะต้องทำยังไง แต่พอมีหลาย ๆ ส่วนเข้ามาช่วยแนะนำว่าต้องทำแบบนี้ แบบนี้นะ ให้แนวคิดเราว่าต้องทำยังไงบ้าง ต้องขอบคุณทุก ๆ ฝ่ายเลยค่ะ”
จากนั้นในช่วงบ่ายของวันที่12 ธ.ค.65 น.ส.พัชณ์ศมณ ก็ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. ณัฐวุฒิ สาหร่ายทอง ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จว.ภูเก็ต เพื่อขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมาแจ้งลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อ ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
