สืบภาค 8 สนธิกำลังทลายแหล่งผลิตเสื้อยืดแบรนด์ดัง มูลค่าความเสียหาย 1.5 ล้าน

ภูเก็ต – เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ (2 มี.ค. 66) พ.ต.ท.จงเสริม ปรีชา รอง ผกก.สส.3บก.สส.ภ.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี ผกก.สภ.กะทู้ นำ กำลังเจ้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ตำรวจภูธรภาค 8 (ภ.8) พร้อมหมายศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 2 มีนาคม 2566 เข้าตรวจค้นห้องแถวไม่ปรากฏเลขที่กลางหมู่บ้านสิงห์เทาธานี หมู่ที่ 6 ต.กะทู้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเสื้อยืดยี่ห้อดังรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในภาคใต้

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม 2566, เวลา 17:35 น.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบพบ อุปกรณ์ในการผลิตคือกรอบการพิมพ์สกรีนมากถึง 23 ชิ้นที่ ปรากฏรูปตราเครื่องหมายการค้าผลิตภัณฑ์ชื่อดังต่าง ๆ เช่น Nike, Adidas, Harley-Davidson, BALENCIAGA, GUCCI, Calvin Klein Jeans, Vans, The North Face, Under Armour และ Levi’s รวมทั้งสีสำหรับพิมพ์สกรีนชนิดต่าง ๆ และน้ำยา ตลอดจนเสื้อยืดคอกลมหลากสีสัน ที่สกรีนเรียบร้อยแล้วหลายร้อยตัว อยู่ในถุงพลาสติกและเตรียมส่งจำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 3 คน เป็นชาย 1 และหญิง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ ในฐานความผิดมาตรา 273 ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว ไม่ว่าจะได้จดทะเบียนภายใน หรือภายนอกราชอาณาจักร

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8 สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ภ.8 ร่วมกับ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภ.8, ภ.จว.ภูเก็ต และ สภ.กะทู้ ดำเนินการจับกุมในวันนี้ ซึ่งเป็นการจับกุมขยายผลของ กองกำกับการสืบสวน ภ.8 ชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ภ.8 มีการนำหมายค้นของศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นที่บ้านห้องแถวเป้าหมาย ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องหา 3 คนชาย 1 หญิง พร้อมของกลางเป็นสินค้าเสื้อยืดปลอมที่มีหลายยี่ห้อ ที่ต้องทำการตรวจนับดำเนินคดีสอบสวนและส่งให้พนักงานสอบสวน

“สำหรับในเรื่องนี้ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ช่วยแจ้งเบาะแส ทางกองกำกับการสืบสวนขยายผลได้ทำการตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน และช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก สินค้าจำพวกนี้รายวันรายเดือนจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีเสียชื่อเสียงของประเทศไทยเรา ในจังหวัดภูเก็ตทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมในลักษณะนี้ ทั้งในเรื่องการสืบสวนขยายผล เราจับตั้งแต่รายเล็ก ๆ ที่วางจำหน่าย และมีประชาชนแจ้งเบาะแสด้วยเจ้าหน้าที่ก็ทำการขยายผลจนสืบทราบว่า ที่นี่เป็นที่จำหน่ายและผลิตด้วย ก่อนหน้านี้มีโควิด-19 ไม่มีการจับกุมเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว จึงไม่มีการผลิตแต่ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากก็มีการผลิต เราต้องดำเนินการจับกุมต่อเนื่อง”

"เราประชุมและชี้แจง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่เรียกว่าพื้นที่สีแดงที่มีความเสี่ยงในการจำหน่ายไม่ว่าจังหวัด ภูเก็ต หรือเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ของพวกนี้จะมีเป็นของคู่กัน ถ้ามีนักท่องเที่ยวก็จะมีการผลิตของสิ่งนี้ออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เฝ้าติดตาม ในเคสนี้ขอขอบคุณในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราม ทรัพย์สินทางปัญญาที่สืบสวนขยายผล และได้จับกลุ่มรายนี้ได้" พล.ต.ต.ศักย์ศิรา กล่าวทิ้งท้าย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่