โดยรถคันดังกล่าวมุ่งหน้าออกนอกเมือง จากพื้นที่ตำบลเกาะแก้ว ไปยังอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสกัดรถคันดังกล่าวด้วย
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.สุมล จิตรวิรัตน์ รอง สวป.สภ.ถลาง ปฏิบัติหน้าที่ ร้อยเวรสายตรวจจราจร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสกัดรถคันดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับรถคันอื่น ๆ ที่ใช้เส้นทางบนท้องถนน จากนั้นรถคันดังกล่าวได้ขับมาถึงวงเวียนอนุสาวรีย์ฯ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโบกสกัดให้รถจอด รถคันดังกล่าวได้ยูเทิร์นหลบหนีขับมุ่งหน้าเข้าเมืองภูเก็ต
ต่อมา ด.ต.สุธีร์ มณีสิงห์ ได้ใช้รถจักรยานยนต์สายตรวจจราจร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จราจรอีกหลายนายได้ขับไล่ตามรถคันดังกล่าว จากนั้นรถคันดังกล่าวได้จอดกลางจุดยูเทิร์น บริเวณจุดกลับรถวัดท่าเรือ แล้วกระโดดลงจากรถและล็อคประตูรถคันดังกล่าว ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ของผู้ที่สัญจรผ่านไปมาแล้วหลบหนีไป
จากนั้น ร.ต.อ.สุมล ได้วิทยุแจ้งเข้าศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.ถลาง เพื่อได้ประสานรถยก เพื่อยกรถคันดังกล่าวไปยัง สภ.ถลาง แต่ในขณะที่รถคันดังกล่าวกำลังลากรถผ่านอนุสาวรีย์ ซึ่งในขณะนั้นการจราจรหนาแน่น ชายคนดังกล่าวได้วิ่งมาขวางหน้ารถยก พร้อมตะโกนว่าจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ด.ต.สุธีร์จึงเข้ามาพูดเจรจากับชายคนดังกล่าว แต่ก็ยังเจรจาตกลงกันไม่ได้
ทาง ด.ต.สุธี จึงได้อธิบายในข้อกฎหมายให้ชายคนดังกล่าวรับทราบ ก่อนที่ชายคนดังกล่าว จะเริ่มเย็นลง และนำรถกระบะคันดังกล่าวลงจอดไว้ที่ข้างทาง บริเวณหน้าห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ ถลาง และพยายามชี้แจงให้ชายคนดังกล่าวรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งชายดังกล่าวยอมรับทราบข้อกล่าวหา และยินยอมให้รถลากนำรถคันดังกล่าว ไปยัง สภ.ถลาง เพื่อให้พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับในคดี “ขับรถประมาทหวาดเสียว และจอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร”