สืบเนื่องจาก ประมาณเดือน ธ.ค. 2566 ช่วงเวลากลางคืน นายมะอุสมาน ฯ (ผู้ต้องหา) ได้เข้ามารักษาตัวที่ รพ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยขณะนั้นแจ้งต่อแพทย์เวรว่า ตนเองถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บ ต่อมาพยาบาลได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ และได้ทำการสอบปากคำ นายมะอุสมานที่ รพ.รือเสาะ ซึ่งเจ้าตัวให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเองถูกลอบยิง พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน สภ.รือเสาะ จึงได้ลงพื้นที่หาพยานหลักฐาน กระทั่งผลปรากฏว่าแท้จริงแล้ว นายมะอุสมานไม่ได้ถูกลอบยิงแต่อย่างใด แต่เป็นการทำปืนลั่นใส่ตัวเอง นั่นทำให้จากผู้บาดเจ็บกลายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับค้างเก่าในพื้นที่รับผิดชอบ และทราบจากสายลับ ว่านายมะอุสมานจะเดินทางด้วยขบวนรถไฟที่ 169 กรุงเทพอภิวัฒน์ มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงวางแผนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเป็นความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ชป.3 ) สายใต้ และ ชุดสืบสวน สภ.รือเสาะ ภ.จว.นราธิวาส วางแผนในการจับกุมผู้ต้องหา ก่อนจะพบนายมะอุสมาน จึงได้แสดงหมายจับพร้อมแจ้งสิทธิให้ทราบ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล. สั่งการให้ พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. ดำเนินการ