จากกรณีได้มีการแชร์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 1.55 นาที ของเหตุการณ์เมื่อเวลา 16.48 น. วันที่ 3 มิ.ย.66โดยในคลิปคนขับรถตู้มีการพูดคุยกับชายประมาณ 5-6 คน ซึ่งบอกว่าที่นี่มีคิวแท็กซี่ พยายามพูดไม่ให้คนขับรถตู้รับลูกค้าชุดนี้ออกไป แต่ถ้าจะรับก็ให้ลูกค้าลากกระเป๋าออกไปด้านนอกท่าเรือ และรถตู้ต้องไปรอรับด้านนอกท่าเทียบเรือ หลังจากคนขับรถตู้เริ่มถ่ายวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ ได้มีชายเสื้อดำเดินเข้ามาการพูดว่า ตอนนี้ให้รับแล้ว คนขับรถตู้จึงตอบกลับไปว่าอย่ามาหลังกล้อง เมื่อครู่ยังให้ตนลากกระเป๋าออกไปข้างนอก ซึ่งตามในคลิปจะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวสาวมีอาการตกใจ และไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมามีชายเสื้อดำอีกคนเดินมาบอกว่าตนเป็นหัวหน้าคิวไม่ต้องฟังคนอื่นฟังตนคนเดียว บอกว่าให้รถตู้รับลูกค้าออกไปได้ พร้อมบอกให้รถตู้ใจเย็น ๆ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้พบกับคนขับรถตู้ซึ่งอยู่ในคลิปดังกล่าวทราบชื่อ นายอภิมุข สิทธิกุล อายุ 26 ปี รถตู้ป้ายเหลือง ภูเก็ต ได้ให้คลิปวิดีโอกับผู้สื่อข่าวซึ่งคลิปแรกเป็นคลิปภายในรถ ที่จะเห็นว่านักท่องเที่ยวเข้านั่งในรถตู้แล้วบางส่วน และอีกส่วนยังอยู่นอกรถ ส่วนอีกคลิปเป็นกล้องหน้ารถซึ่งจะได้ยินมีผู้ชายมาคุยกับนักท่องเที่ยวที่นั่งในรถ
นายอภิมุข กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนออกจากบ้านแล้วเปิดแอปพลิเคชั่นในเมืองหลัง จากนั้นมีออเดอร์เข้ามาให้รับจากท่าเรือรัษฎาไปที่ไสยวน ต.ราไวย์ ตนจึงขับรถเข้าไปรับปกติ เมื่อไปจอดรถก็นำกระเป๋าลูกค้าขึ้นรถ ต่อมามีผู้ชายหนึ่งคนเดินมาบอกว่า ที่นี่เขาไม่ให้รับ ตนเข้าใจว่ารับไปก่อนรอบหน้าค่อยว่ากัน แต่ชายคนดังกล่าวบอกให้ลูกค้าลากกระเป๋าออกไปเลยตอนนี้ให้ไปขึ้นรถด้านนอก
หลังจากนั้นก็มีการโต้เถียงกัน ทางคิวแท็กซี่ก็เดินกันมาเรื่อยมาหนึ่งมาอีกประมาณ 5-6 คน มีการท้าต่อยอะไรกันแต่ตนไม่อยากมีปัญหา สักพักหัวหน้าคิวเดินมาห้ามและเดินมาพูดกับตนว่าให้พูดกับเขาคนเดียว เพราะเขาเป็นหัวหน้าคิวที่นี่ และวันหลังก็เข้ามารับได้และให้เบอร์โทรไว้
นายอภิมุข เล่าต่อไปว่า ตอนเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวอยู่ในเหตุการณ์ 5 คน มีอยู่นั่งในรถ 2 คน ที่เหลืออยู่ตรงที่ตนกับแท็กซี่ยืนเถียงกัน เพราะกระเป๋ายังขึ้นไม่หมด ยังเหลืออีกประมาณ 2 ใบ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเข้ามาหาเรื่องรถป้ายเหลืองแบบตน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
“หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ก็ได้บอกนักท่องเที่ยวว่าขอโทษ ด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยเก่งอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวก็โอเคและเข้าใจ จากนั้นไปส่งนักท่องเที่ยวถึงที่หมายปกติ” เขากล่าว
