ล่าสุดในวันนี้ (30 มิ.ย. 66) ทางผู้เสียหายยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าใด ๆ จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทางตำรวจยังไม่ได้มีการออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามแจ้งแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ ข่าวภูเก็ต ได้รับการติดต่อจาก นางสารีณา สรรเพชร ระบุว่า สามีของตนจอดรถทิ้งไว้บนถนนภายในซอยพื้นที่ตำบลเกาะแก้วแล้วไปทำธุระ เมื่อเสร็จธุระเดินกลับมาที่รถกลับพบว่ารถกระบะของตนนั้นมีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชน แต่ไม่มีคู่กรณีแสดงความรับผิดชอบ สอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงทราบว่า รถคันที่ก่อเหตุเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีไปนั้นเป็นรถยนต์กระบะปรับแต่งให้เป็นลักษณะตู้ทึบ
“สามีไปทำงานภูเก็ตจอดรถตั้งไว้ไปทำธุระแถวเกาะแก้วโดนชนแล้วหนี แจ้งตำรวจไม่คืบหน้า ตำรวจให้หากลักฐานเอง พอได้มาบอกหลักฐานไม่พอ” นางสารีณา กล่าว
ในวันเกิดเหตุ (21 มิ.ย.) หลังทราบเรื่อง นายสุนัส สรรเพชร ที่อยู่ อำเภอเมือง จังหวัด สตูล ได้เดินทางเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.ขันทอง เชาวลิต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ในเวลาประมาณ 20.30 น.
ร.ต.ท.ขันทอง ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรจราจร ระบุในรายงานประจำวันว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 66 นายสุนัส สรรเพชร อายุ 41 ปี ที่อยู่อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่าเวลา 15.30 น. ผู้แจ้งได้จอดรถยนต์โตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เทา ป้ายทะเบียน ลง 1237 ภูเก็ต ไว้บริเวณถนน 3030 เส้นหน้าโรงไฟฟ้าเกาะแก้ว ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้แจ้งได้กลับมาที่รถยนต์คันดังกล่าว พบว่ารถยนต์ที่จอดอยู่ถูกเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย และได้สอบถามผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ทราบว่ามีรถกระบะตู้ทึบมาเฉี่ยวชนรถของผู้แจ้งได้รับความเสียหายและหลบหนีไป ผู้แจ้งจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ร.ต.ท.ขันทอง ได้รับคำร้องไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถาม พ.ต.ต.ธานี ตันจันทร์กูล สว.จร. สภ.เมืองภูเก็ต ถึงกรณีดังกล่าวระบุว่า ในกรณีจอดรถบนผิวจราจรแล้วถูกเฉี่ยวชนเสียหาย หากมีหลักฐานขอให้นำมามอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติม หรือหากเป็นกรณีที่จอดในจุดห้ามจอด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องแจ้งข้อมูลให้ผู้แจ้งทราบอย่างครบถ้วน และทำการติดต่อไปยังรถผู้ต้องสงสัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหากพบว่ากระทำความผิดก็จะต้องมีการลงโทษและชดใช้ค่าเสียหายตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายสุนัสได้เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า หลังจากที่ตนได้เข้าแจ้งความและทางเจ้าหน้าที่บอกให้หาหลักฐาน ตนได้เร่งหาข้อมูลจนสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ และขอดูกล้องวงจรปิดจากหน่วยงานที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อที่จะหาตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งบางจุดแจ้งว่าต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ร้องขอดูกล้องวงจรปิด โดยจากข้อมูลเบื้องต้นรถต้องสงสัยคาดว่าเป็นรถตู้ทึบ และนอกจากรถของตนแล้วทราบว่ามีรถยนต์กระบะสีดำอีกคันถูกชนได้รับความเสียหายด้วย โดยตนได้มอบหลักฐานที่มีให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เชื่อว่ารถตู้ทึบคันดังกล่าวน่าจะเป็นรถต้องสงสัย แต่แจ้งว่ายังไม่สามารถมองเห็นป้ายทะเบียนได้อย่างชัดเจน และจนถึงวันนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อคุณสุนัสทางเฟซบุ๊ก Sunat Sanpat หรือเบอร์โทร. 0945052455
