ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนายไบรซ์ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 เม.ย. ต่อเนื่องรุ่งเช้าของวันที่ 9 เม.ย. ตนได้เข้าไปนั่งที่ราไวย์ ลากูน่า บาร์ กับเพื่อน ๆ ตามปกติและนั่งข้างดีเจ ซึ่งดีเจคนนี้เคยมีปัญหากับตนก่อนหน้านี้ เพราะเชื่อว่าได้ขโมยโทรศัพท์ตนไปเครื่องหนึ่งแล้ว ผ่านไปไม่กี่วันตนก็ไปอีก เวลาผ่านไปถึงประมาณ 4.00 น. ตนได้พูดคุยกับดีเจขณะกำลังจะออกไปจากร้าน ยืนยันว่าตนพยามพูดคุยด้วยดี ๆ แต่ดีเจพูดจาไม่สุภาพกับตน เกิดการผิดใจกันจนถึงขั้นมีปากเสียงชกต่อยกับดีเจของร้านและการ์ดได้รุมทำร้ายร่างกาย ลากตัวตนออกไปแล้วผลักตนล้มลงกับพื้น จากนั้นได้มีการ์ดหนึ่งคนได้เข้ากระทืบตนจนได้รับบาดเจ็บ และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลฉลอง โดยได้รับบาดเจ็บ จมูกแตกหัก
และในเช้าของวันเดียวกันตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง แต่คดียังไม่คืบหน้า หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้าร้องสื่อ เพื่อความเป็นธรรม ให้ตำรวจดำเนินคดีตรงไปตรงมา หลังจากเกิดเรื่องผ่านไป 7 วันแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ
นายไบรซ์ กล่าวอีกว่า หลังจากแจ้งความเรื่องที่ตนโดนดีเจและการ์ดทำร้ายร่างกาย ทางตำรวจ สภ.ฉลอง ไม่มีใครโทรมาเลย ทุกอย่างเงียบ จึงอยากขอความเป็นธรรมกับสื่อช่วยกระตุ้นให้ทางตำรวจช่วยเร่งจัดการเรื่องนี้ด้วย ตนมาภูเก็ตและประเทศไทยครั้งแรก ทุกคนที่นี่ดีและน่ารักมาก ตนรู้จักกับพนักงานทุกคนดีหมดยกเว้นดีเจคนดังกล่าว ถ้าตนกลับประเทศไปแล้วก็จะกลับมาเที่ยวอีกเพราะรักเมืองไทย
ทั้งนี้ หลังออกจากโรงพยาบาล ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บตรงจมูกแตกหัก ได้ร่วมกับทางครอบครัวเพื่อนชาวไทยไปขอกล้องวงจรปิด แล้วได้ส่งหลักฐานเอกสารแจ้งความโรงพยาบาล ส่งไปร้องเรียนยังสื่อเพื่อให้ช่วยติดตามคดีในครั้งนี้
ทางด้าน สภ.ฉลอง ได้ประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าของคดีหลังมีการนำเสนอผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 66 พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วว่านายไบรซ์ถูกทำร้ายร่างกายโดยพนักงานรักษาความปลอดภัยของลากูน่าบาร์หลังจากที่ได้เข้าไปใช้บริการที่ร้าน โดยได้สอบปากคำผู้เสียหายและส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จำเป็นต้องใช้ผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ เพื่อประกอบการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา โดยยืนยันว่า ทางพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จะได้เร่งติดตามผลและการตรวจร่างกายและดำเนินการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ในข่าวประชาสัมพันธ์ของ สภ.ฉลอง ไม่ได้ระบุเวลาเกิดเหตุเอาไว้แต่อย่างใด
