โดยระบุว่า “ผู้ก่อเหตุขับรถมาจากทางโรงแรมซันวิง มุ่งหน้าไปเส้นหาดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ ตำรวจแจ้งว่ากล้องจาก อบต.ไม่สามารถใช้งานได้ ส่วนกล้องบริเวณรอบ ๆ ก็ไม่ชัดเท่าที่ควร ทำให้เห็นป้ายทะเบียนไม่ครบส่วนที่เห็นคือ 8767 กรุงเทพ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่า ผู้ก่อเหตุจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ แต่เพราะไม่ทราบหมวดตัวอักษรจึงทำให้ติดตามได้ลำบาก ตอนนี้ผมกำลังพยายามหากล้องที่เห็นป้ายทะเบียน ผมเลยจะรบเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ถ้ามีใครพบเห็นรถเก๋ง โตโยต้า วิออส ทะเบียน 8767 กรุงเทพ สีเทา ตามภาพที่แนบมารบกวนแจ้งเบาะแสด้วยครับ”
ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเส้นถนนเลียบหาดได้พูดคุยกับผู้โพสต์คือ นายชยากร เพิ่มพูน ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการที่ผู้บาดเจ็บทำงานอยู่ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนไปธุระข้างนอก แต่มีพนักงานโทรแจ้งว่ามีเหตุเกิด พอกลับมาจึงไล่ดูกล้องวงจรปิดเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“มีพนักงานที่นี่เห็นว่าผู้ก่อเหตุเปิดกระจกและเห็นว่าเป็นชาวต่างชาติ 2 คน ผู้หญิงเป็นคนขับผู้ชายนั่งข้าง ตอนนี้ผู้บาดเจ็บนอนอยู่โรงพยาบาลไหปลาร้าแตกกระดูกซี่โครงบริเวณปอดหัก อาการทางสมองเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลเฝ้าดูอาการอยู่ ตอนนี้รอแอดมิดทางสมองอย่างเดียว” นายชยากร กล่าว พร้อมระบุว่า จนถึงขณะนี้ทางร้านยังไม่ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ทราบเพียงยี่ห้อรถ ส่วนทะเบียนรถทราบแต่เพียงตัวเลข ไม่ทราบหมวดอักษร
“เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า กำลังพยายามหากล้องวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ได้ ส่วนกล้อง อบต.เสียบริเวณที่เกิดเหตุเป็นระยะทางค่อนข้างไกล กล้องของประชาชนไม่สามารถมองเห็นหมวดอักษรได้ ตอนนี้อยากให้มาแก้ไขเรื่องทางเดินเท้าเพราะตรงนี้ไม่มี เวลาคนเดินจะเดินบนถนนเลยเป็นอันตรายมาก เพราะชาวต่างชาติบริเวณนี้ขับรถเร็วมาก ๆ และอยากให้กล้องวงจรปิดกลับมาใช้ได้เร็ว ๆ ครับ” นายชยากร กล่าว
และพบกับผู้เห็นเหตุการณ์คือ น.ส.พีรพรหม วัฒนสินเพิ่ม เล่าว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวานวันที่ 16 มิ.ย 65 เวลา 16.15 น. มีรถยนต์เก๋ง โตโยต้าวีออส ซึ่งมาขับด้วยความเร็วสูง ขณะที่ผู้บาดเจ็บเขากำลังเดินไปซื้อน้ำดื่ม และชนเข้ากับพนักงานรุ่นน้องของเธอจนตัวปลิว
“มองเห็นรถผ่านด้วยความเร็ว ทั้งคู่กระจกรถลดลง มีคนขับเป็นผู้หญิงและผู้ชายนั่งข้างเป็นฝรั่งทั้งคู่ และขับผ่านไปอย่างเร็วโดยไม่รับผิดชอบอะไรเลย จากนั้นก็วิ่งไปดู เห็นน้องเขาน้องเขาได้รับบาดเจ็บเลือดออกทางปากและทางหูอาการสาหัส จึงได้เรียกรถพยาบาลเพื่อนำน้องไปส่งโรงพยาบาลถลาง ก่อนจะส่งต่อโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต” เธอกล่าว
“เขาบอกว่ามีหอยปลาร้าหักและซี่โครงด้านบนหัก เมื่อคืนนี้หมอส่งตัวกลับมาโรงพยาบาลถลางแล้ว เพราะไม่ต้องผ่าตัด ตอนนี้ยังนอนโรงพยาบาล น้องดีขึ้นแล้วพูดได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาติดตามดูกล้องวงจรปิด แต่ทุกตัวมองไม่ชัด มองป้ายทะเบียนรถไม่ชัดเพราะรถมาด้วยความเร็วมากทั้งสองคนเป็นชาวต่างชาติ” น.ส.พีรพรหม กล่าว
และในวันนี้ น.ส.จารุณี กาสุรงค์ น้องสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วรวุฒิ เส็นโสบ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว