เมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการ “เปิดประเทศ” ต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และเดินทางทางอากาศจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งเดิมกำหนด 46 รายชื่อประเทศและพื้นที่ต้นทาง และได้เพิ่มเป็น 63 รายชื่อในเวลาต่อมา
สำหรับเที่ยวบินแรกของวันที่ 1 พ.ย. เวลา 08.00 น. ท่าอากาศยานภูเก็ตให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ตามมาตรการเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว (Test&go และ Sandbox) สายการบิน Edelweiss เที่ยวบินที่ WK050 เส้นทางการบิน ZHR – HKT ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 229 คน เส้นทางการบินจากท่าอากาศยานซูริค สวิตเซอร์แลนด์ เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต
ซึ่งจังหวัดภูเก็ตก็ได้แสดงความพร้อมผ่าน “ภูเก็ตก้าวไปด้วยกัน” หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” มีการเตรียมมาตรการครบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ความปลอดภัย การท่องเที่ยวและบริการ
โอกาสนี้ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “ก้าวต่อจากนี้ คือก้าวสำคัญที่พวกเราต้องทำให้เกิดการกระจายรายได้ให้มากที่สุด ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจลงให้มากที่สุด เพื่อการเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคง ท่ามกลางสภาวะแห่งความผันผวน ภูเก็ตพร้อมเป็นแซนด์บ็อกซ์ในทุกมิติการพัฒนา เพื่อสร้างประโยชน์ให้คนภูเก็ตและประเทศไทย”
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ในประเด็นการผ่อนคลายขั้นตอนและแนวปฏิบัติในการเดินทางเข้าประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวหลายรายได้เคยร้องเรียนว่าขั้นตอนมีความยุ่งยาก จนทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเลือกที่จะไม่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
“ตอนนี้เรามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตัวเลขการจองโรงแรมกระเตื้องขึ้น แต่เราก็ต้องดูไปอีกสักระยะ คิดว่าน่าจะใช้เวลาอีกสักสองสัปดาห์ เพื่อให้ได้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น”
ประกอบกับระเบียบของหนังสือรับรองการเข้าประเทศไทย (CoE) ซึ่งกำหนดให้ผู้เข้าพักสามารถจองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 30 วัน จึงต้องรอดูในส่วนของการเปลี่ยนมาใช้ระบบ Thailand Pass ต่อไป สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามากที่สุดยังคงเป็นยุโรป ด้วยพฤติกรรมที่มักจะออกเดินทางท่องเที่ยวที่ในช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ของไทยในการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้า แต่ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย
“ตอนนี้เราต้องเข้าใจประเทศต้นทางด้วยว่า เงื่อนไขการกักตัว มันก็มีผลทำให้ไม่มีใครอยากมา เพราะฉะนั้นตอนนี้นอกจากยุโรปที่ดูเหมือนจะเป็นอันดับหนึ่ง เราก็ต้องดูว่าประเทศใดที่กลับไปแล้วต้องกักตัว ซึ่งนั่นก็ทำให้แฟนคลับเราหลายหลายคนมาไม่ได้ เช่น ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ที่เมื่อก่อนให้เราเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ก็ต้องกักตัวเมื่อเดินทางกลับไป ในขณะที่ประเทศที่ไม่ได้อยู่ใน 63 รายชื่อยังสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตได้ผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”
คาดหมายนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ 2.6 -3 ล้านคน ตลอดปี 2565 จากสถานการณ์ปัจจุบัน
“ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินในส่วนของรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยว แต่เราคิดว่าปีหน้าทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 2.6 – 3 ล้านคน ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่มันเข้ามาทำให้เกิดการบั่นทอนการเดินทาง” นายภูมิกิตติ์ กล่าว “ซึ่งจำนวนนี้เรายังไม่พอใจ เพราะเป็นตัวเลขไม่ถึง 30% เทียบกับช่วงเวลาก่อนการระบาด โดยตัวเลขมาจากการประเมินเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ถ้าอะไร ๆ มันปรับเปลี่ยนไปแล้วก็น่าจะได้มากขึ้น หรืออาจจะมีเหตุทำให้ได้น้อยลงเราก็ไม่รู้ หรือถ้ากฎต่าง ๆ เปลี่ยนแปลง เราก็ต้องดูกันใหม่”
อย่างไรก็ตาม สำหรับความพร้อมของจังหวัดภูเก็ตนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต มั่นใจว่าภูเก็ตพร้อมมาตลอด ประกอบกับประสบการณ์และบทเรียนต่าง ๆ ที่เคยผ่านเข้ามา
“เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรจากนี้และต่อไป เพราะฉะนั้นไม่น่าห่วงอะไรแล้ว พวกเรามีความพร้อมอย่างเต็มที่”
