เจ้าของรถเช่าภูเก็ตเดือดร้อนหนัก แก๊งอ้างทำธุรกิจใหญ่ไร่กัญชา หลอกเช่ารถขายต่อ

ภูเก็ต - เจ้าของรถเช่าในภูเก็ตเดือดร้อนหนัก โดนแก๊งตระเวนหลอกเช่ารถ อ้างทำธุรกิจใหญ่ ไร่กัญชาในภูเก็ต เหยื่อหลงกลโดนหลอกนับ 10 คัน

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 27 กันยายน 2564, เวลา 11:36 น.

เจ้าของรถเช่าภูเก็ตเดือดร้อนหนัก แก๊งอ้างทำธุรกิจใหญ่ไร่กัญชา หลอกเช่ารถขายต่อ

เจ้าของรถเช่าภูเก็ตเดือดร้อนหนัก แก๊งอ้างทำธุรกิจใหญ่ไร่กัญชา หลอกเช่ารถขายต่อ

แก๊งมีสีหลอกเช่ารถหลายบริษัทในภูเก็ต ที่ปล่อยรถเช่าให้ชาวต่างชาติ แต่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแย่เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ระบาดในจังหวัดภูเก็ต ทำให้บริษัทรถที่เคยให้ชาวต่างชาติเช่าอย่างเดียวไม่มีทางเลือก จึงปล่อยให้คนไทยเช่าแต่ถูกนำรถไปขายต่อ อ้างเจ้านายทำธุรกิจใหญ่ต้องใช้รถ เพื่อติดต่อลูกค้าไร่กัญชา เช่าไปแล้วไม่ส่งคืนแต่นำไปขายต่อในต่างจังหวัด

เมื่อวานนี้ (26 ก.ย. 64) เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปวิดีโอที่มีความยาวประมาณ 3-4 นาที ซึ่งถูกส่งมาจากผู้เสียหายหลายราย หลังถูกแก๊งหลอกเช่ารถ ในจังหวัดภูเก็ต เช่ารถไปแล้วไม่ส่งคืน น.ส.นิติยา เจ้าของบริษัทใน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่าตนเป็นประธานบริษัท ที่เปิดให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตเช่ารถแบบรายวันและรายเดือน ซึ่งรถที่ให้เช่าส่วนใหญ่ก็จะเป็น SUV ฟอร์จูนเนอร์ 

ก่อนเกิดเหตุในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาผู้เช่าจะเข้ามาตีสนิทคุยเรื่องธุรกิจใหญ่โต โดยบอกกับตนว่าจะเช่ารถไปทำธุรกิจติดต่องานกับคนในจังหวัดภูเก็ต เพื่อปลูกไร่กัญชา ครั้งแรกมาเช่า 1 คัน อีก 3 เดือนมาขอเช่าอีก 1 คัน ปกติตนจะไม่ปล่อยเช่ารถให้กับคนไทย แต่ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ทำเอาธุรกิจของตนต้องหยุดชะงักลงจึงต้องนำรถมาปล่อยให้คนไทยเช่าในราคาเป็นรายเดือน ราคาประมาณ ​15,000-30,000 บาท เดือนที่ 1​ และ ​2 ผู้เช่าจะจ่ายเป็นปกติ พอเข้าเดือนที่ 3 จะ จ่ายช้าและไม่สามารถส่งรูปให้ทางบริษัทดูได้ พร้อมกับอ้างว่าบัญชีมีปัญหา โอนเงินไม่ได้ หรือบัญชีถูกกยศ.​หักเงิน 

“เมื่อติดต่อไปก็อ้างติดภาระนู่นนี่นั่นบ่ายเบี่ยงโดยตลอด และยังโทรกลับมาสร้างความน่าเชื่อถือ โดยบอกว่าจะจ่ายค่ารถในวันที่เท่านั้นวันที่เท่านี้ แต่ก็รอแล้วเมื่อถึงกำหนดก็ไม่มาจ่าย โทรไปก็ไม่รับสาย ตามไปที่บ้านก็ปิดประตูล็อกกุญแจแน่น ถามข้างบ้านจึงทราบว่าผู้เช่าเป็นแก๊งต้มตุ๋นหลอกนำรถไปขายต่างจังหวัดแล้ว”

ผู้เสียหายเล่าต่อไปว่า ตอนนี้ตนยังต้องแบกรับภาระค่างวดรถอยู่เดือนละ 17,000 บาท 1 คัน ส่วนอีก 1 คันไม่ต้องผ่อนแล้ว แต่รถทั้ง 2 คันโดนแก๊งต้มตุ๋นหลอกหลอกเช่าเอาไปยังไม่ส่งคืน ซึ่งตนคิดว่าน่าจะนำไปขายต่อแล้ว

ทั้งนี้ ทางผู้เสียหายได้เคยติดตามตัวนายบอย หรือ นายสรายุทธ จนพบและได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และยังได้ซัดทอดไปถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งตนก็ยังสงสัยว่า ทำไมมีหลักฐานขนาดนี้แล้วยังไม่สามารถจับกุมผู้ร่วมกระบวนการแก๊งต้มตุ๋นนี้ได้ จึงต้องเข้ามาร้องเรียนสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยนำเสนอข่าวให้ด้วย เนื่องจากเกรงว่าเรื่องราวความเดือดร้อนเหล่านี้จะเงียบหายไป และหลายคนก็ยังไม่ได้รถกลับคืนมา

ด้าน นางสาวนีรนุช ตัวแทนบริษัทใน ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ​เป็นอีกคนหนึ่งที่เปิดบริษัทรถเช่าแต่ก็ถูกแก๊งนายสรายุทธหลอกเช่ารถแล้วไม่นำรถมาคืน ติดต่อไม่ได้ จำนวน 4 คันซึ่งเป็นรถแวนทั้งหมด และยังต้องแบกรับภาระผ่อนส่งค่างวดคันละเกือบ 20,000 บาทต่อเดือน รวม 4 คันจำนวนเกือบ 1 แสนบาทต่อเดือน 

“ตอนนี้ยังหารถไม่เจอ ไม่ทราบว่ามีผู้เช่านำรถไปซ่อนหรือนำรถไปขายไว้ที่ไหน ไปแจ้งความไว้แล้วแต่คดีไม่คืบหน้า จึงต้องมาร้องสื่อและยังมีบริษัทให้เช่ารถอีกจำนวนมากที่ถูกแก๊งนี้ต้มตุ๋น หลอกเช่า และไม่นำรถมาส่งคืน ไปแจ้งความไว้แล้วแต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ทุกคนเดือดร้อนกันมาก ต้องแบกรับภาระหนี้สิน ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีนักท่องเที่ยว เนื่องจากผลกระทบจากโรคโควิด-19”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่