เจ้าของร้านทองภูเก็ตชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 วันจับกุมคนร้ายโรยตัวชิงทองได้

ภูเก็ต - เจ้าของร้านทองภูเก็ตชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากใช้เวลา 3 วันในการสืบสวนหาข้อมูลจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายชิงทองได้ เผยต่อไปจะเพิ่มเติมเรื่องการรักษาความปลอดภัยภายในร้านให้ครอบคลุม

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 27 ตุลาคม 2564, เวลา 12:58 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

จากกรณี มีคนร้ายเข้าไปในร้านทอง ห้างทองทวีชัย เลขที่ 18 ถ.ระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ด้วยวิธีงัดหลังคาเปิดโรยลงมาในร้าน แล้วใช้อาวุธมีดและไม้ทำร้ายร่างกายคนในบ้านซึ่งเป็นญาติของเจ้าของร้านจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึงสองราย พร้อมทั้งบังคับให้เปิดตู้เซฟ ชิงทองรูปพรรณ น้ำหนัก ประมาณ 5 กก. หรือ 300 บาทเศษ มูลค่ากว่า  8 ล้านบาท พร้อมเงินสดอีก 1 แสนบาท หนีลอยนวลไป เหตุเกิดใกล้เที่ยงคืนวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา 

เช้าวันที่ 26 ต.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกับชุดสืบสวน ตร.ภ. 8 ได้เบาะแสรูปพรรณคนร้ายจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายต้องสงสัยจึงนำรูปพรรณภาพถ่ายให้ผู้เสียหายยืนยัน จากนั้นขออำนาจศาลออกหมายจับและดำเนินปฎิบัติการเข้าจับกุมไว้ได้ เมื่อเวลา 07.30 น. ที่คาร์แคร์แห่งหนึ่งบนถนนวิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ และได้นำตัวไปสอบสวนขยายผล ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 

ล่าสุดวันนี้ (27 ต.ค.) นางเบญจพร วัชรัตศิริยุทธ อายุ 61 ปี เปิดเผยว่า ทรัพย์สินคิดคร่าว ๆ ก็ประมาณ 300 กว่าบาท มูลค่ามากกว่า 10 ล้าน เป็นความเสียหายที่มากกว่าจะสร้างตัวก็ต้องใช้เวลานาน ตำรวจสามารถเรียกคืนมาได้ก็ดีใจ เราต้องแก้ไขการป้องกันให้ปลอดภัยมากกว่านี้ เดิมทีเราป้องกันแต่ด้านหน้า มีกล้องวงจรปิด มีกริ่งเรียกสัญญาณในร้านสำหรับเรียกเวลามีขโมยเข้ามา แต่ด้านหลังเป็นพื้นที่ร้าง คิดว่าไม่น่าจะอันตราย เพราะมีกำแพงสูง อีกอย่างก็เมื่อก่อนบ้านร้างมีคนอาศัยอยู่ แต่ช่วงหลังไม่อยู่ ก็อาจจะเป็นจุดบอด 

“เราไม่มีกล้องด้านหลังร้าน ก็คิดว่าจะต่อเติมเสริมความแข็งแกร่งในร้านให้มากกว่านี้ ทั้งหน้าหลังเพราะยุคเดี๋ยวนี้โจรผู้ร้ายชุมเหลือเกิน ก็ช่วยตำรวจอีกทางหนึ่งป้องกันทรัพย์สินของเราด้วย ตำรวจบอกว่าผู้ร้ายยังไม่ได้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปไหน ยังอยู่ในถุงที่หิ้วไป ตังค์ก็มีอยู่ รายละเอียดอย่างไงตำรวจบอกว่าต้องรอแถลงการณ์ ทางตำรวจจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง รอเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมา” 

“ตำรวจบอกว่าจับผู้ร้ายได้แล้วทางเราดีใจแล้ว คิดว่าผู้ร้ายน่าจะเป็นคนต่างด้าว และยังไม่ได้เคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่อื่น ขอชื่นชมตำรวจที่รวบตัวทัน ถ้าออกนอกพื้นที่ก็อาจมีการเปลี่ยนทรัพย์สินไปสู่คนอื่น เรียกได้ว่าผู้ร้ายไม่รู้ตัวโดนจับโดยละม่อมชื่นชมว่าตำรวจเก่งทีมประสานงานอย่างดี ตำรวจสมัยนี้พึ่งได้ เทคโนโลยีก้าวหน้า การสื่อสาร การส่งข่าว การประสานงานอะไรก็ของแต่ละทีม ประทับใจก็คิดว่าตำรวจไทยฝีมือเชื่อถือได้” นางเบญจพร กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่