เจ้าท่าภูเก็ตสั่งเอาผิดเรือท่องเที่ยวฝ่าคลื่น 3 เมตร ฝืนคำสั่งเดินเรือช่วงคลื่นลมแรง

ภูเก็ต - ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต สั่งเอาผิดเรือท่องเที่ยว 2 ลำฝ่าฝืนคำสั่งการเดินเรือช่วงคลื่นลมแรง เดินทางจากเกาะพีพีมายังจังหวัดภูเก็ต

ข่าวภูเก็ต

วันพุธ ที่ 2 สิงหาคม 2566, เวลา 14:26 น.

นายณชพงศ ประนิตย์ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีปรากฎภาพข่าวออกสื่อโทรศัพท์และสื่อออนไลน์ โดยมีการตั้งข้อสังเกตและความห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยในการบริการใช้เรือสปีดโบ๊ท ขณะฝ่าคลื่นลมแรงระหว่างกลับจากเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อกลับมายังท่าเทียบเรือในจังหวัดภูเก็ต 

ปรากฏภาพเรือสปีดโบ๊ทชื่อ ณัซทิชา 555 กำลังฝ่าสู้คลื่นลม โดยมีเรือสปีดโบ๊ทอีกลำได้บันทึกภาพเคลื่อนไหว และพบว่ามีนักท่องเที่ยวที่มากับเรือบางส่วนไม่สวมเสื้อชูชีพ ในวันที่ 1 ส.ค.นั้น ตนเองได้มอบหมายให้ นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือและเจ้าหน้าที่ จภ.5(ภก.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยผลการตรวจสอบเบื้องต้นเรือที่กำลังฝ่าคลื่นลมในภาพข่าวชื่อเรือ ณัฐทิชา 555 ได้ผจญคลื่นลมแรงในระหว่างทางกลับจากเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มายังท่าเทียบเรือวานิช จ.ภูเก็ต ในวันที่ 1 ส.ค. เวลาประมาณ 14.30 น. ในขณะให้บริการเรือเช่าลำโดยมีผู้โดยสาร 8 คน และคนประจำเรือ 2 คน รวมคนบนเรือ 11 ราย ผู้ควบคุมเรือชื่อ นายจิรทีปต์ ประโมงกิจ อายุ 25 ปี ผู้ควบคุมเครื่องจักรชื่อ นายพิเชษฐ์ ประโมงกิจ อายุ 32 ปี 

ขณะเรืออีกลำชื่อเรือ ที เอส เค 6 ประเภทบรรทุกคนโดยสาร(เรือเร็ว) ได้ผจญคลื่นลมแรง คลื่นมีความสูงประมาณ 3 เมตร ในวันและเวลาเดียวกันระหว่างเดินทางกลับจากเกาะพีพี มายังท่าเทียบเรือ AA แหลมหงา เกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต ขณะนั้นมีผู้โดยสาร 44 คน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจำนวน 42 ราย ไกด์ 2 ราย และคนประจำเรือ 3 นาย รวม 47 รายโดยมีผู้ควบคุมเรือชื่อ นายเรวุฒิ พุทธวงศ์ อายุ 31 ปี มีผู้ควบคุมเครื่องจักรชื่อ นายขวัญชัย ประโมงกิจ อายุ  48 ปี    

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าว พบว่า ตัวเรือและเครื่องจักรยนต์มีสภาพพร้อมใช้งาน และเสื้อชูชีพครบตามจำนวนที่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น และได้แจ้งลักษณะของการกระทำความผิดของผู้ควบคุมเรือ เข้าข่ายตาม มาตรา 291 วรรคแรก มีสาระสำคัญว่า ผู้นำร่อง นายเรือ ต้นหน สรั่ง ไต้ก๋ง นายท้าย คนถือท้าย ต้นกล หรือคนใช้เครื่องที่ได้รับประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตผู้ใดหย่อนความสามารถ หรือประพฤติไม่สมควรแก่หน้าที่ ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับเกี่ยวแก่การเดินเรือหรือหน้าที่ของตน ให้เจ้าท่ามีอำนาจที่จะสั่งงดไม่ให้ใช้ประกาศนียบัตรหรือใบอนุญาตมีกำหนดไม่เกิน 2 ปี แต่ไม่เป็นการลบล้างโทษอย่างอื่นซึ่งผู้นั้นจะพึงได้รับ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งนัดหมายเชิญผู้ควบคุมเรือและผู้เกี่ยวข้องฯ เข้าไปให้ถ้อยคำและชี้แจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่