เตือนระวัง 4 แมลงสัตว์มีพิษ เข้าบ้านในช่วงหน้าฝน แนะนำจัดบ้านให้เป็นระเบียบ

อธิบดีกรมอนามัย เตือนระวังแมลง-สัตว์มีพิษ 4 ชนิด เข้าบ้านในช่วงหน้าฝน แนะนำให้ประชาชนจัดสภาพแวดล้อมทั้งในบ้านและบริเวณรอบบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง เพื่อป้องกัน งู ตะขาบ แมงป่อง และแมลงก้นกระดก

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 10 พฤษภาคม 2565, เวลา 11:00 น.

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงหน้าฝนประชาชนควรจัดสภาพแวดล้อมทั้งในบ้านและบริเวณรอบบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง เพื่อป้องกันแมลง และสัตว์มีพิษที่พบบ่อย 4 ชนิด ได้แก่

1) งูมักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ชื้นแฉะ รก และมีแหล่งอาหาร เช่นหนู โดยให้สำรวจบริเวณรอบบ้านปิดช่องทางที่หนูและงูสามารถเข้ามาได้รวมทั้งตรวจสอบระบบท่อไม่ให้มีรูรั่วหรือรอยแตก ควรตรวจสอบรองเท้าก่อนใส่ เนื่องจากงูอาจหลบซ่อนอยู่ หากพบงูอยู่ในบ้านให้โทร 199 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมาจัดการกรณีถูกงูกัดให้ปฐมพยาบาลโดยล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ห้ามกรีดหรือดูดบริเวณที่ถูกกัด ไม่ควรขันชะเนาะ รีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที และจดจำลักษณะงูที่กัดเพื่อแจ้งแพทย์ให้การรักษาที่ถูกต้อง

2) ตะขาบเมื่อโดนกัดจะมีอาการปวด คัน บวมแดงบริเวณที่ถูกกัด การปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาด และประคบน้ำอุ่นครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวมหลีกเลี่ยงการเกา แกะบริเวณที่ถูกกัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อหากพบว่ามีอาการบวมหรือปวดเพิ่มขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์

3) แมงป่อง ผู้ที่ถูกแมงป่องต่อย จะปวดบวมบริเวณที่ถูกต่อย โดยมากจะมีอาการในวันแรกและมักหายได้เองส่วนรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีหัวใจเต้นเร็วหายใจเร็ว ความดันโลหิตสูง ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก ปฐมพยาบาลโดยทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาดและประคบเย็นครั้งละประมาณ10 นาที เพื่อลดอาการบวม

4) แมลงก้นกระดกที่มีลำตัวเป็นปล้อง ๆ มีสีดำสลับสีแดงหรือสีแดงอมส้ม ห้ามตีหรือขยี้ด้วยมือเปล่า ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษเขี่ยแมลงออกไปหากสัมผัสโดนตัวแมลง พิษของมันจะทำให้ปวดแสบปวดร้อน มีอาการคัน ผิวไหม้ ผื่นแดง และเป็นตุ่มน้ำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ จุ่มหรือแช่บริเวณที่โดนแมลงในน้ำเย็น 5-10 นาที สลับกับการเป่าให้แห้งหากมีอาการอักเสบรุนแรงให้รีบพบแพทย์ทันที

สำหรับวิธีการป้องกัน อธิบดีกรมอนามัยแนะนำให้ ดูแลและหมั่นทำความสะอาดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีมุมอับชื้นหรือเป็นแหล่งหลบซ่อนอาศัยของแมลง สัตว์มีพิษ คัดแยกขยะก่อนทิ้ง และทิ้งขยะหรือเศษอาหารในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งเพาะพันธุ์ส่วนบริเวณภายนอกบ้านควรปรับปรุงให้โล่งเตียน หากมีการปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้าน ควรตัดแต่งไม่ให้รกรุงรังพร้อมกับกำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าทุกครั้งไม่ควรกองทิ้งไว้ เพราะจะทำให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษได้

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่