นายจรูญ จูประเสริฐ อายุ 68 ปี ลูกเรือ เล่าถึงเหตุการณ์นาทีระทึกว่า เมื่อคืนเกิดเหตุช่วงเวลา 20.20 น. ตนและกัปตันกำลังนำเรือกลับเข้าฝั่ง หลังจากออกทะเลไปประมาณ 4 วัน โดยเรือลำนี้เคยใช้เป็นเรือไดหมึกมาก่อน แต่ตอนนี้ได้ดัดแปลงมาเป็นเรือวางเบ็ดราว ซึ่งการออกเรือเที่ยวนี้ได้ปลามาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะมีคลื่นลมแรง
เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุระหว่างเกาะตะเภาใหญ่กับเกาะตะเภาน้อย ห่างจากฝั่งประมาณ 3-4 กิโลเมตร เรือได้ชนเข้ากับซากเรือที่จมอยู่บริเวณหน้าเกาะ จนทำให้เรือของตนพลิกคว่ำและค่อย ๆ จมลงในทะเลใกล้กับปลายแหลมสะพานหิน ตอนนั้นตนและกัปตันพร้อมกับลูกเรืออีกคนหนึ่งที่สูญหายชื่อ นายประคันชัย สุภารัตน์ (หรือแอ็ด) อายุ 60*ปี อยู่หมู่ที่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต นั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ ขณะเกิดเหตุกัปตันซึ่งเป็นผู้ดูแลเรือลำนี้ได้สั่งให้ลูกเรือทุกคนสวมเสื้อชูชีพให้แน่นหนาและนำแกลลอนน้ำดื่มมาผูกมัดติดกับตัว พร้อมกับเชือกอีกหนึ่งเส้น ซึ่งทุกคนก็ผูกติดตัวและอีกด้านหนึ่งไปผูกติดกับเรือไว้ เมื่อเรือจมทุกคนจะลอยอยู่เหนือน้ำได้อย่างปลอดภัย
แต่ผู้สูญหายได้โดดลงน้ำไปก่อนในช่วงที่เรือกำลังจะจม และคาดว่าเชือกที่ผูกติดตัวนั้นน่าจะหลุดจากตัวของผู้สูญหาย แต่โชคดีที่ผู้สูญหายยังมีเสื้อชูชีพและแกลลอนน้ำดื่มเปล่าติดตัวไปด้วย ผู้สูญหายอาจจะลอยน้ำไปติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งในบริเวณใกล้เคียง แต่ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังเร่งช่วยเหลือตามหาแล้ว