แทงโหดชายออสซี่เจ้าของรีสอร์ทกระบี่ดับวันเกิดครบ 57 เหตุไม่พอใจเมียถูกออกจากงาน เคลียร์ค่าจ้างไม่ลงตัว

กระบี่ – ชายชาวต่างชาติวัย 57 ปีแเจ้าของรีสอร์ทที่จังหวัดกระบี่ ถูกแทงภายในรีสอร์ทของตัวเองเป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ (2 เม.ย.) ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุให้การสารภาพในชั้นตำรวจ แต่ในเบื้องต้นไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุในการลงมือในครั้งนี้ ตำรวจคาดสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่ภรรยาถูกให้ออกจากงาน และเคลียร์ค่าจ้างไม่ลงตัว

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 5 เมษายน 2566, เวลา 16:00 น.

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 66 ร.ต.อ.ถิรกร ไทยฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ รับแจ้งจาก รพ.กระบี่ ว่ามีชาวต่างชาติถูกแทงเข้ามารับการรักษาและเสียชีวิตแล้ว

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายปีเตอร์ จอห์น เฮปเปล อายุ 57 ปี สัญชาติออสเตรเลีย (เกิดเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2509) เป็นเจ้าของรีสอร์ทบนพื้นที่ หมู่ 3 บ้านท่าเลน ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ และพำนักในจังหวัดภูเก็ตเป็นเวลาหลายปี มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลม เข้าบริเวณชายโครงขวา ทะลุปอด ตามแขนขวามีรอยถูกมีดบาดหลายจุด ส่วนจุดเกิดเหตุ เป็นบริเวณบาร์ริมหาดภายในรีสอร์ทของผู้ตาย

ที่เกิดเหตุบริเวณศาลาที่เป็นบาร์ริมหาด มีร่องรอยคราบเลือดหยดอยู่หลายจุด ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบอาวุธมีดทำครัวแบบปลายแหลม เปื้อนเลือดยาวประมาณ 1 ฟุต ตกอยู่ 1 เล่ม เป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายภีรฉัตร ส่งศรี อายุ 24 ปี บ้านเดิมหมู่ 8 ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา หลังก่อเหตุเข้าไปมอบตัวกับตำรวจที่ สภ.อ่าวนาง ตำรวจคุมตัวไว้รอสอบปากคำอีกครั้ง

จากการสอบถามพนักงานในรีสอร์ท ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงพักเที่ยง จึงไม่มี พนักงานอยู่ตอนเกิดเหตุ มีเพียงผู้ตายและลูกค้าที่เข้าพัก ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุมาพบผู้ตาย เพื่อมาเจรจาตกลงเรื่องเงินค่าจ้างของภรรยาที่ถูกให้ออกจากงาน ซึ่งคาดว่าผู้ตายน่าจะหักเงินของภรรยาผู้ก่อเหตุหลายบาท จนทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและวิ่งไปเอามีดในครัวมาไล่แทงผู้ตาย ก่อนจะขับรถ จยย.หนีออกไป จากนั้นลูกค้าในรีสอร์ทจึงรีบพาผู้ตายส่ง รพ.แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้นตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำ แจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดสาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเชิญตัวภรรยามาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่