ต่อมาวันเดียวกัน (22 ม.ค. 66) ตำรวจป่าตอง ได้สืบสวนสอบสวน ตามที่ได้มีข่าวออกทางสื่อโซเชียล "แท็กซี่ป้ายเขียวไม่พอใจถีบรถมอเตอร์ไซค์จอดรถปิดหน้า" พร้อมยืนยันว่า สภ.ป่าตอง ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อได้รับแจ้งจากประชาชนและเจ้าของรถ ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ได้ติดตามหาเจ้าของรถแท็กซี่ ป้ายเขียว จนทราบชื่อชายคนขับรถคันดังกล่าว ชื่อ นายสิทธิ์(นามสมมติ) อายุ 45 ปี ได้เชิญตัวมายัง สภ.ป่าตอง เพื่อจัดทำประวัติ, ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด จากการสอบถามสาเหตุ นายสิทธิ์ให้การแก่ชุดสืบสวนว่า ขณะที่ตนจะขับรถเพื่อออกจากจุดจอดพบรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุจอดปิดหน้ารถของตนอยู่ ด้วยความเร่งรีบและโมโหตนจึงได้ถีบไปที่รถคันดังกล่าวจนล้มคว่ำลงไป
ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง จึงได้นำ นายสิทธิ์ไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีในข้อหา "ทำให้เสียทรัพย์"
ล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายเพียว ประชุมสวัสดิ์ อายุ 38 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ ที่สภ.ป่าตอง ซึ่งมาพบกับพนักงานสอบสวน ในเบื้องต้นรอการประเมินราคาความเสียหายของรถคันดังกล่าว
นายเพียว กล่าวว่า เมื่อวานตนขับรถมาจอดด้านหน้าของรถคู่กรณีที่ได้จอดอยู่ก่อนแล้วแต่ไม่ได้เบียด จากนั้นจึงได้เข้าไปติดตั้งพัดลมในร้าน
“จังหวะนั้นตนได้ยินเสียงรถล้มตนก็ออกมาดูแล้วเห็นเขา (นายสิทธิ์) ยกรถอยู่ คิดว่าเขามาเฉี่ยวรถแล้วล้ม จึงเข้ามาดูความเสียหาย คิดว่าไม่มีอะไรเสียหายมาก และเข้าใจว่าเขาคงรู้สึกผิดที่มาเฉี่ยวชนรถจนล้มจึงไม่ได้คิดอะไร จากนั้นก็ได้ถามว่าไม่ขอโทษสักคำเหรอ เขาก็บอกว่าขอโทษขอโทษ แล้วเขาก็ขึ้นรถขับไปเลย แต่พอมาย้อนดูกล้องวงจรปิด ก็ได้เห็นว่าเขาลงจากรถเขามาถีบมอเตอร์ไซค์จนล้ม” นายเพียว กล่าว
“จากนั้นก็รู้สึกงงกับเหตุการณ์และรู้สึกโมโห ว่าทำไมเขาถึงได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนั้น ทำไมเขาไม่เดินไปบอกในร้านให้ขยับรถให้ เขาไม่ใช้การเจรจา เขาใช้อารมณ์ สถานที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณะ รถประเภทไหนอะไรมาจอดก็ได้ หน้าร้านเราแต่รถอะไรมาจอดก็ได้ ไม่ได้หวง อยากขอให้เขาใช้เหตุผลหน่อยว่าเวลาไป จอดรถที่ไหน หรือไปเจอกับใครเป็นนิสัยที่ไม่ดี ถ้าเขาไปเจอคนที่ร้อนเหมือนกันก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะจบแบบไหน ขอให้เขาควบคุมอารมณ์ด้วย ส่วนทางสถานีตำรวจรับลงบันทึกประจำวัน และให้นำรถไปประเมินราคาค่าซ่อม เพื่อให้คู่กรณีชดใช้ต่อไป"