แท็กซี่ภูเก็ตในคลิปโต้ ราคามีมานานแล้ว สาเหตุอารมณ์ขึ้น เพราะโดนต่อว่า ‘โกง’

ภูเก็ต – คนขับรถแท็กซี่บริเวณจุดให้บริการใกล้กับคาเฟ่ชื่อดัง ในพื้นที่ตำบลกมลา จังหวัดภูเก็ต ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอที่มีการโพสต์และแชร์บนโลกโซเชียลมีเดียของนักท่องเที่ยวชาวไทยโต้ ราคาที่ตนเองเสนอไปนั้นมีมานานแล้ว พร้อมเผยสาเหตุอารมณ์ขึ้นเพราะโดนต่อว่า ‘โกง’

เอกภพ ทองทับ

วันอาทิตย์ ที่ 30 มกราคม 2565, เวลา 16:51 น.

จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อ Kevin Phol นักท่องเที่ยวชาวไทย โพสต์คลิปมีปัญหากับวินแท็กซี่หลังเรียกรถ Grab & Bolt มารับกลับที่พักแต่ถูกปฏิเสธเหตุ เนื่องจากกลัวมีปัญหากับวินแท็กซี่เจ้าถิ่นไม่กล้าเข้าไปรับ

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (30 ม.ค.65) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังคิวแท็กซี่ดังกล่าวซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับคาเฟ่ดังกล่าวที่นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ และได้พบกับ นายเจษฎา หรือบังหนุ่ม คาหะปะนะ อายุ 48 ปี ผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวันเกิดเหตุ ที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการในคาเฟ่ แล้วเกิดการทะเลาะวิวาทเกี่ยวกับราคาค่าบริการรถแท็กซี่

“เรื่องมีอยู่ว่าพี่เขา 3 คน ออกมาจากสถานบริการ สถานบริการก็ปิดแล้วเขาก็เดินผ่านหน้าไป ผมก็ถามว่าแท็กซี่ไหม เขาก็ไม่ตอบเขา เดินผ่านหน้าผมไป หลังจากคิวแท็กซี่ก็จะมีตุ๊กตุ๊กจอดอยู่ด้วย เขาก็ไปคุยอะไรกับตุ๊กตุ๊ก ผมก็ไม่ทราบคุยไรกัน ผมไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย เขาก็เดินกลับมามาถามเองว่าไปโรงแรมดินสอ นาใน ป่าตองราคาเท่าไร เขาไม่ได้ถามผมเป็นคนแรกเขาถามเพื่อนร่วมงานผมอีกคนหนึ่ง เพื่อนร่วมงานผมก็ตอบว่าราคา 600 บาท แต่ตอนนั้น คิวจอดรถที่ให้บริการคือคิวผมเป็นคิว 1 เพื่อนเลยชี้คนนี้เป็นคนขับ ผมก็เลยเดินเข้าไปหาบอกเขาไปว่าราคาไป 600 บาท ไม่มีการต่อรองเลยว่าลดได้ไหม คำแรกที่เขาพูดออกมาว่าคุณโกง ผมก็ถามว่าโกงผมโกงตรงไหนครับ” นายเจษฎา กล่าว พร้อมระบุอีกว่า จากจุดนี้ไปป่าตองในแอปฯโบล์ทที่นักท่องเที่ยวโชว์มาให้ดูแค่ 168 บาท 

“เขาพูดว่าคุณโกง 600 บาทนี่คุณโกง ผมบอกว่าถ้าคุณพอใจที่จะไปกับแอปคุณก็ไปในราคา 160 บาท แต่รถของผมเป็นรถโลคอลแท็กซี่ให้บริการในราคา 600 บาท ถ้าคุณไม่พอใจคุณก็ไปใช้บริการกับคันที่คุณพอใจตามในคลิปที่ออก ผมยังยืนยันคำเดิมว่าของผม 600 บาทเป็นราคาที่วิ่งกันมา ตั้งแต่สถานบริการตรงนี้เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยว เราก็ใช้ราคานี้มาตลอด”

นายเจษฎาหรือบังหนุ่ม ยังกล่าวเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวอีกว่า รถของตนที่ใช้รับแขกนั้นเป็นรถตู้ VIP 10 ที่นั่ง และมั่นใจว่าราคา 600 บาท จากกมลาไปป่าตองนั้นไม่แพง 

"ตัวเลือกมีเยอะแยะซึ่งผมไม่ได้ไปบังคับขู่เข็ญคุณต้องมาขึ้นผมคันเดียว คุณเลือกใช้บริการได้เต็มที่ แล้วที่เขาอ้างว่าทางแอปฯ ไม่สามารถมารับตรงนี้ได้ เป็นเพราะทางแอปฯ ต้องปักหมุด ไม่ว่าลูกค้าคนไหนจากประเทศไหนที่ใช้บริการแอปฯ เขาจะปักหมุดให้ลูกค้าไปขึ้นที่บริเวณหน้าอินเตอร์คอนฯ ซึ่งความเป็นจริงบางครั้งก็มีมาจอดรับที่หน้าคาเฟ่ฯ เองก็มีเยอะแยะ แต่ด้วยความที่ว่าอาชีพเดียวกัน เขารู้ว่าตรงนี้มีรถที่คอยให้บริการอยู่แล้ว เขาเหมือนกับเกรงใจกันหรืออะไรประมาณนี้ เขาไม่พยายามที่จะจอดหน้าสถานบริการ เขาจะเลี่ยงที่จะไปจอดผ่านไปนิดหนึ่งที่จะให้ลูกค้าเดินไปหา เหตุการณ์มันก็แค่นี้ แต่เขายังไม่ยอมหยุด ยังมีการยั่วยุว่าผมโกง อย่างนี้ไม่ได้ ข่มขู่บ้างอะไรบ้าง ผมก็ถามว่าข่มขู่คุณตรงไหน ยังไง แตะตัวคุณตรงไหน อาฆาตมาดร้ายคุณตรงไหน ไม่มีเลยสักอย่าง” นายเจษฎา กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับเรื่องการชูนิ้วกลางใส่นักท่องเที่ยวนั้น นายเจษฎายอมรับว่าตนทำจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาชูใส่ผู้หญิงที่มาด้วยแต่อย่างใด

“ทางแฟนเขากล่าวหาผมว่าผมชูนิ้วกลางใส่ ในความเป็นจริงคือผมชี้นิ้วใส่หน้าเขา ส่วนผู้หญิงผมไม่หันมองเลยด้วยซ้ำ เพราะผมถือว่าเป็นเพศแม่ ผมคุยกับคุณผู้ชายอย่างเดียวผมชี้หน้าคุณผู้ชายอย่างเดียวในคลิปชัดเจน” นายเจษฎา กล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่ได้โกงและไม่ได้ข่มขู่ แต่เป็นฝ่ายคู่กรณีที่พยายามยั่วยุตน ตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว

โดยในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค. 65) นายเจษฎาจะต้องเดินทางไปชี้แจงกับ เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ทางเจ้าหน้าที่สภ.กมลา ติดต่อผมให้เข้าไปให้ปากคำ ชี้แจงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องข้อกล่าวหาหรือข้อหายังไม่มีการแจ้งว่าผมโดนข้อหาอะไร ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตก็โทรมา เพื่อจะให้ผมไปชี้แจงรายละเอียดว่ามันเกิดอะไรขึ้นอย่างไร วันพรุ่งนี้ผมต้องไปให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ขนส่งฯในเวลาประมาณ 9.30 น. ที่ศาลากลางหลังใหม่” นายเจษฎา กล่าวปิดท้าย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่