แท็กซี่เจ้าถิ่นกร่างขับรถปาดหน้าลงมาว๊ากแท็กซี่ป้ายดำหญิง แจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด

ภูเก็ต – จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 แชร์คลิปความยาว 40 วินาที พร้อมโพสต์ข้อความ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. 66เวลา 21.50 น. เป็น คลิปการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ระหว่างผู้ขับขี่แท็กซี่เจ้าถิ่นชายบริเวณห้างสรรพสินค้าภูเก็ต ถ.วิชิตสงคราม กับผู้ขับขี่รถแท็กซี่หญิงที่เป็นรถบริการของแอปพลิเคชัน Indriver

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 29 มีนาคม 2566, เวลา 13:08 น.

จนทำให้นักท่องเที่ยวหญิง 1 รายที่ติดต่อใช้บริการกับแอปฯ นั่งอยู่ด้านห้องโดยสารหลังรถตกใจเป็นอย่างมาก และในระหว่างการโต้เถียงนั้น ฝ่ายแรกอ้างว่าเป็นผู้ประกอบการคิวรถแท็กซี่ในพื้นที่เกิดเหตุ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรถแท็กซี่ของผู้ขับขี่ผู้หญิง โดยอ้างว่าเป็นรถป้ายดำผิดกฎหมาย รวมทั้งมีพฤติกรรมในการพยายามเปิดประตูรถในฝั่งซ้ายของคนขับ ส่วนผู้ขับขี่ผู้หญิงยืนยันว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นรถป้ายดำแต่ได้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายทุกประการ

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงผู้ขับขี่รถยนต์ป้ายทะเบียนภูเก็ตได้เข้าแจ้งความกับ ว่าที่ พ.ต.ต.กันต์ อักษรทอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต เนื่องจากผู้ขับขี่แท็กซี่ชายทำให้ตนเองเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ

อย่างไรก็ดี เจ้าตัวได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อตนว่ากระทำความผิดในการใช้แอปฯ ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งให้ทราบว่าได้เชิญตัวผู้ข่มขู่ชายมาสอบปากคำแล้ว เนื่องจากมีสภาพร่างกาย (ตาแดง) และพฤติกรรมคล้ายไม่ปกติ แต่ไม่พบสิ่งเสพติดใด ๆ และพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำผู้ขับขี่หญิง รวมทั้งผู้ข่มขู่ชายอย่างละเอียดอีกครั้งด้วย

นอกจากนี้ทางผู้แจ้งยังเปิดเผยในช่วงเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาด้วยว่า หลังจากที่ตนเองได้รับแจ้งทางโทรศัพท์มือถือที่มีหญิงชาวต่างประเทศให้ไปรับที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า แต่ปรากฏว่ามีผู้ขับขี่แท็กซี่ชายตามปรากฏในภาพคลิปได้ขับรถปาดหน้าและลงมาต่อว่า รวมทั้งมาแตะต้องตัวรถและพยายามที่จะเปิดประตูด้านซ้ายของคนขับ ทั้งยังมีการต่อว่าลูกค้าด้วย ซึ่งในขณะเกิดเหตุเธอรู้สึกหวาดกลัวมาก ทันทีที่ได้สติเธอได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปตามที่ปรากฏ ในส่วนของลูกค้าเองก็หวาดกลัวและถามเธอว่าทำไมชายคนดังกล่าวถึงทำเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่าส่วนตัวแล้วไม่อยากมีปัญหาเพราะเป็นคนทำอาชีพเดียวกัน แต่การข่มขู่คุกคามคือไม่ถูกต้อง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีให้ถึงที่สุดให้เป็นกรณีตัวอย่าง และเชื่อว่าลูกค้าในภูเก็ตอย่างน้อย 50% เรียกใช้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่