โชเฟอร์รถตู้หัวร้อนเข้ามอบตัวแล้ว พร้อมรับทราบข้อกล่าวหา ส่งศาลตัดสิน

ภูเก็ต - จากกรณีมีคลิปถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ในภูเก็ตอย่างแพร่หลาย โดยเป็นคลิปคนขับรถตู้ถือเหล็กปรี่เข้ามาจะทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หน้าร้านกาแฟ ริมถนนรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบกันอย่างกว้างขวาง

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 3 กรกฎาคม 2566, เวลา 16:34 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

เบื้องต้นรถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้โดยสารไม่ประจำทางมาจากจังหวัดกระบี่ มาส่งนักท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต โดยแชร์คลิปดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียให้กับรถบริการสาธารณะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (3 ก.ค.66) เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.กมลาสณ์ นิยมเขต รอง ผกก. จราจร สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.ไกรสรณ์ ภาคอารีย์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมสอบปากคำ นายปารเมศ สรเกตุ อายุ 47 ปี คนขับรถตู้โดยสารของบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากมีคลิปเผยแพร่ทางโลกออนไลน์ว่า ได้ทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวที่ หน้าร้านกาแฟ ถนนรัษฎา ย่านเมืองเก่าภูเก็ต โดยทางญาติและตัวแทนของบริษัทไม่ให้บันทึกภาพแต่อย่างใด

พ.ต.อ.ประเทือง กล่าวว่า จากกรณีที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนที่มีนักท่องเที่ยวถูกบุคคลที่เป็นคนขับรถตู้โดยสาร ที่มีลักษณะท่าทางจะเข้าไปทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว เมื่อทางตำรวจได้รับทราบข้อมูลข่าวสารก็ไม่นิ่งนอนใจ สั่งการให้สืบสวนข้อมูลและทราบว่าทะเบียนรถตู้นั้น

“ทางท่านรองผู้กำกับจราจรได้ทำการสืบสวนอย่างรวดเร็ว และได้หน่วยสนับสนุนจากตำรวจท่องเที่ยว ได้สืบหาตำรวจท่องเที่ยวคนดังกล่าว เพราะหลังจากเขาลงรถแล้วก็ได้เดินหายไป หลังจากนั้นหลังจากการสืบสวนสอบสวนปรากฏว่า นักท่องเที่ยวท่านนี้เดินทางมาจากจังหวัดกระบี่ เพื่อที่จะมาลงที่บริเวณถนนย่านเมืองเก่า และเกิดความไม่พอใจกับผู้ขับขี่เล็กน้อย ในเรื่องของการยกกระเป๋าลงมา หรือความไม่พอใจที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพียงแค่นี้ ผู้ขับขี่ก็รู้สึกไม่พอใจที่โดนผู้โดยสารถ่ายภาพไว้ และมีการยกไม้ยกมือแสดงกริยาที่ไม่พอใจแค่นั้นเอง” พ.ต.อ.ประเทือง กล่าว 

“ต้องขอขอบคุณที่ผู้ขับขี่รถยนต์ตู้คันนี้ที่ไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่ก่อเหตุบานปลายไปกว่านี้ เมื่อประสานไปเพื่อเรียกมาสอบสวนสอบปากคำเรื่องราว วันนี้คนขับก็ได้มาพบและได้สอบถามที่มาที่ไปก็ปรากฏ วันนี้จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่อศาลในข้อหา ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ขู่เข็ญทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ซึ่งเป็นความผิดศาลแขวง 

“เป็นไปตามนโยบายของท่านผู้บัญชาการภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจเมืองภูเก็ต ในทุกกรณีที่มีการก่อเหตุลักษณะนี้เราจะไม่ทำการเปรียบเทียบปรับที่สถานีตำรวจ จะต้องส่งฟ้องต่อศาล ต้องมี คำสั่งศาลพิพากษา ว่าจะลงโทษปรับหรือจำคุกอยู่ในดุลพินิจของศาล เรามีมาตรการที่ต้องดำเนินการแบบนี้ทุกครั้ง” พ.ต.อ.ประเทือง กล่าว

“ในเรื่องที่เกิดขึ้นเราต้องนึกถึงอกเขาอกเรา เขาบอกว่านักท่องเที่ยวคนนี้เป็นสัญชาติชาวสิงคโปร์ แล้วลงจากรถกระเป๋าที่เขาช่วยยกลงมาฝ่ายนักท่องเที่ยวเห็นว่ากระแทกแรงไปหน่อยก็เลยเกิดความไม่พอใจ ที่ว่าทำไมยกกระเป๋าของตนลงกระแทกแรงจัง ส่วนทางคนขับรถตู้บอกว่ากระเป๋าหนักก็แค่นั้นเอง ทางคนขับรถตู้ก็ได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่วันนี้ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เจอกัน”

ส่วนเรื่องอาวุธ พ.ต.อ.ประเทือง กล่าวว่า ข้อหานี้ไม่ได้เป็นอาชญากรไม่ได้มีความรุนแรง

“สอบถามเขาว่าอาวุธที่ถือคล้ายท่อนเหล็กหรือคล้ายท่อน้ำ เขาก็บอกว่าเป็นสิ่งนี้คล้ายหนังยางเส้นเล็ก ๆ เขาเอาไว้วางกระเป๋าไม่ให้กระแทกกัน ถ้าลองนำไปเปรียบเทียบในภาพในคลิปก็ลักษณะคล้าย ๆ กัน” พ.ต.อ.ประเทือง กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่