โซเชียลเผยแพร่ชีวิตชายพิการหลานอดีตเจ้าเมืองภูเก็ต ต้นตระกูลรัตนดิลก

กระบี่ - กรณีที่ได้มีเผยแพร่เรื่องราวของนายฐิติ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ชายพิการอัมพาตครึ่งตัว วัย 54 ปี ผู้อาศัยอยู่ในบ้านอันทรุดโทรมเพียงลำพังที่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ในโลกโซเชียลนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบว่ามีผู้คนให้ความสนใจและยื่นมือเข้าช่วยเหลือจำนวนมาก

เปรมกมล เกษรา

วันศุกร์ ที่ 8 กันยายน 2560, เวลา 14:10 น.

ภาพ พม.จังหวัดกระบี่

ภาพ พม.จังหวัดกระบี่

วันนี้ (8 ก.ย.) นางสาวอรวรรณ เพชรพงศ์ นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดกระบี่ กล่าวกับข่าวภูเก็ต ว่า “เดิมทีทางพม.กระบี่ไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อน กระทั่งเพื่อนพ้องของนายฐิติได้เข้าเยี่ยม และโพสต์เพื่อขอความช่วยเหลือจากสังคม ส่วนในเรื่องที่เป็นประเด็นว่านายฐิติได้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองภูเก็ต ทางเราก็ทราบมาจากสื่อโซเชียลมีเดีย เช่นกัน ”

“จากการเข้าเยี่ยมนายฐิติ พบว่า นายฐิติป่วยเป็นอัมพาตครึ่งตัวเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อปี 2525 ที่จังหวัดชุมพร นายฐิติมีพี่น้อง 11 คน เสียชีวิตไป 6 คน นั้นพักอาศัยในบ้านซึ่งเป็นบ้านของพี่สาว ซึ่งปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงใช้ชีวิตเพียงลำพัง ไม่ได้แต่งงานมีลูก ไม่มีญาติพี่น้องเหลียวแล เนื่องจากทราบว่ามีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักระหว่างพี่น้อง แต่ก็มิได้สืบสาวไปถึงรายละเอียดตามที่เป็นข่าวในโซเชียล” นางสาวอรวรรณ กล่าว

ปัจจุบันนายฐิติอาศัยอยู่เพียงลำพังและหาเลี้ยงชีพโดยการขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ออนไลน์

“อดีตนายฐิติเคยเป็นสมาชิกในวงการวิทยุสมัครเล่น ปัจจุบันเจ้าตัวมีความมุ่งมั่นและพยายามในการหาเลี้ยงชีพ ด้วยการขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ออนไลน์ เนื่องจากนายฐิติมีความรู้ทางด้านนี้ เพราะเคยจบปวช.สาขาอิเล็กทรอนิคส์ ทั้งยังได้รับเบี้ยเลี้ยงยังชีพคนพิการเพียงเดือนละ 800 บาท ในปี 2557 ทางพม.กระบี่ ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมที่พักอาศัย และร่วมกับสโมสรโรตารี่และเพื่อนๆ ของนายฐิติกระบี่มอบรถเข็นคนพิการเอาไว้ใช้”

“ล่าสุดได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ อสม.ในชุมชน และแพทย์จากโรงพยาบาลกระบี่ เพื่อเข้าเยี่ยมอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา และพบว่าได้มีผู้บริจาคสิ่งของต่างๆ ให้กับนายฐิติ เช่น เบาะนอนลม เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ อาการแห้ง และเงินบริจาคในบัญชีประมาณ 30,000 บาท (ณ วันที่ 6 ก.ย. 60) ซึ่งต่อจากนี้พม.กระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะให้การช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” นางสาวอรวรรณ กล่าว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่