โทษประหาร “เสี่ยอ้วน” ฆ่าโหด “สปาย-ฟอส” หน้าเขาชีจรรย์ เหลือจำคุกตลอดชีวิต

พัทยา - วันนี้ (18 ก.ย.62) ศาลจังหวัดพัทยานัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน พร้อมพวกรวม 6 คน ตกเป็นจำเลยที่ 1-6 ในคดีร่วมกันสังหารโหด น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือสปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2561

โพสต์ทูเดย์

วันพุธ ที่ 18 กันยายน 2562, เวลา 16:13 น.

ภาพ โพสต์ทูเดย์

ภาพ โพสต์ทูเดย์

โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำพิเศษพัทยา เพื่อรับฟังคำพิพากษา เช่นเดียวกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาเช่นกัน

ล่าสุด ศาลได้พิพากษาให้ประหารชีวิต “เสี่ยอ้วน” รวมถึง นายณรงค์ วรินทรเวช หรือบ่าว มือยิง และนายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือบอล แต่จำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายสายันต์ ศรีสุข มือชี้เป้า ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 50 ปี ส่วนจำเลยอีก 2 คน ศาลสั่งจำคุกคนละ 16 ปี พร้อมให้จำเลยทั้งหมดชดใช้ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยครอบครัวฟอส ชดเชย 732,000 บาท และครอบครัวสปาย ชดเชย 731,400 บาท

ด้านนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของสปายที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาบอกก็รู้สึกพอใจกับคำตัด สินของศาลพัทยาซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ติดใจอะไร โดยเล่าว่าเมื่อเข้าไปคำพิพากษานั้น “เสี่ยอ้วน” ได้ยกมือขอโทษแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

สำหรับคดีสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2561 หลังกลุ่มคนร้ายได้ดักยิงน้องสปายและน้องฟอสเสียชีวิต ขณะกำลังเดินขึ้นรถหลังทั้งคู่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่จังหวัดชลบุรี โดยการสืบ สวนของตำรวจพบว่าคนวางแผนก่อเหตุคือ นายปัญญา หรือ “เสี่ยอ้วน” โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากเสี่ยอ้วนมีความสัมพันธ์กับน้องสปายแต่แอบรู้มาว่าน้องสปายแอบคบกับนายฟอส จึงเกิดความอา ฆาตแค้น โดยก่อนวันเกิดเหตุ 2 วัน “เสี่ยอ้วน” เดินทางจากสนามบินภูเก็ตมาลงเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภาก่อนนัดกับลูกน้องทีมสังหารลงมือก่อเหตุก่อนจะหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาทางด่านชายแดนจังหวัดสระแก้วตำรวจจึงได้ประสานตำรวจกัมพูชาจับกุมเสี่ยอ้วนเอาไว้ได้

ซึ่งจากการสอบสวน “เสี่ยอ้วน” ในขณะนั้นยอมรับลงมือก่อเหตุเพราะแค้นใจที่ถูกสปายและฟอสหลอกลวงมาตลอด 3 ปีว่าเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งที่ทั้งคู่คบหากันทำให้เขาต้องการล้างแค้นคนทั้งคู่เพราะเขาทยอยโอนเงินให้สปายและครอบครัวเป็นค่าเลี้ยงดูรวม 7 ล้าน “เสี่ยอ้วน” และทีมสังหารถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดชลบุรีระหว่างการพิจารณาคดีโดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว (อ่านข่าวโพสต์ทูเดย์ คลิก)

สิงหาคม 2561 ข่าวภูเก็ต รายงานว่า คืนวันที่ 31.ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ป่าตอง สนธิกำลัง บก.ควบคุม พล.ร.5 ชป.รส.ร.25 และฝ่ายปกครอง บุกเข้าตรวจค้นธุรกิจสถานบันเทิงเสี่ยอ้วนบางลา ภายหลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องสำคัญกับคดีสังหารโหด น.สปวีณา และนายอนันตชัย ที่หน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. และพบว่าเป็นการเปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

จากนั้นประมาณสองสัปดาห์ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามและจับกุมตัว “เสี่ยอ้วน” ได้คาชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม และประสานขอรับตัวเสี่ยอ้วนกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่