ตำรวจท่องเที่ยวเผยคืบหน้าแท็กซี่ไล่นทท.ลงรถตู้ เจ้าตัวยืนยัน “ไม่ใช่แท็กซี่มาเฟีย”

ภูเก็ต – ผู้กำกับการตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้ากรณี คลิปวิดีโอปรากฏผู้ชายกำลังถกเถียงกับคนขับรถตู้โดยสาร จับใจความได้ว่ามีการห้ามรถตู้คันดังกล่าวนำนักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวต่างชาติ 4 คน ที่นั่งอยู่บนรถขับออกไปจากบริเวณท่าเรือรัษฎา อ.เมืองภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 5 กันยายน 2565, เวลา 14:09 น.

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 65 มีการแชร์คลิปวิดีโอออก 2 คลิปในกลุ่มไลน์ของผู้ขับขี่รถรับจ้างในจังหวัดภูเก็ต โดยคลิปดังกล่าวปรากฏเป็นชายกำลังถกเถียงกับคนขับรถตู้โดยสาร จับใจความได้ว่า มีการห้ามรถตู้คันดังกล่าวนำนักท่องเที่ยววัยรุ่นชาวต่างชาติ 4 คน ที่นั่งอยู่บนรถขับออกไป อีกทั้งมีลักษณะการข่มขู จนสร้างความงุนงงให้นักท่องเที่ยวสาวทั้ง 4 รายสุดท้ายต้องลงจากรถและต้องไปหารถบริการคันใหม่

ซึ่งต่อมาในช่วงสายของวันที่ 4 ก.ย. ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายนายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคล้ายคม ผกก.2 บก.ทท.3 (ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต) พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รอง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้เข้ามาร่วมสอบปากคำ นายฉัตรพนธ์ มิสินปนิตานนท์ อายุ 45 ปี ผู้ขับรถตู้รับนักท่องเที่ยว และ นายเอกชัย เดชะ อายุ 37 ปี ผู้ที่อยู่ในคลิปแสดงอาการขัดขวางไม่ให้รับนักท่องเที่ยว

พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ กล่าวว่า ทางตำรวจท่องเที่ยว ขนส่งจังหวัด และ สภ.เมืองภูเก็ต ได้ร่วมลงพื้นที่จุดที่เกิดเหตุท่าเรือรัษฎาเพื่อไปดูบรรยากาศการบริการภายในท่าเรือ ซึ่งมีบริษัทเอกชนเข้าไปสัมปทาน แล้วทำสัญญาอนุญาตให้บริษัทรถแท็กซี่บริการได้เข้ามาให้บริการ โดยจะมีการจัดคิวกันภายใน นักท่องเที่ยวมาก็จะมาซื้อตั๋วรถตามปกติ

“ตามที่เราดูรถนอกไม่ว่าจะเป็นรถโรงแรมหรือรถแท็กซี่จากข้างนอกก็สามารถเข้ามารับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งเขาติดต่อโดยตรงได้ ระบบการให้บริการเป็นไปตามที่ทางขนส่งจังหวัดกำหนด ยังไม่พบ ความผิดปกติอะไร” พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทแท็กซี่ได้มอบอำนาจให้ตัวแทนมาแจ้งความร้องทุกข์ ในเหตุการณ์ที่มีคนกล่าวหาว่าเป็นแท็กซี่มาเฟียจากตามคลิปข่าวออกไป เนื่องจากเป็นการทำให้การสื่อสารภาพลักษณ์ออกไปจนเกิดการเข้าใจผิด ซึ่งทาง สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับเรื่องเอาไว้แล้ว

“อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งการสอบสวนการรวบรวมพยานหลักฐาน ถูกผิดก็ว่าไปตามข้อกฎหมาย เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย”

“หลังจากนี้ทางขนส่งฯ จะเรียกทางคิวรถทั้ง 40 กว่าคิว ทั่วจังหวัดภูเก็ตเข้ามาพูดคุยกัน พร้อมทั้งเชิญตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธร มาร่วมพูดคุยในเรื่องการดูแลรับส่งให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งทางขนส่งฯได้วางระบบไว้แล้ว แต่อาจจะต้องมาสื่อสารให้เข้าใจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต” พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังจากคลิปวิดีโอถูกเปิดเผยและแชร์ออกไปในโลกโซเชียล โดยได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก ทางด้านนายเอกชัยและกลุ่มแท็กซี่ก็ได้ร้องขอความเป็นธรรม อย่าเรียกว่า “มาเฟีย” เพราะเป็นเพียงแค่คนทำมาหากินเลี้ยงชีพเท่านั้น

“อยากจะฝากบอกว่าทางบริษัทของท่าเรือไม่ได้มีมาเฟียใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีคนกล่าวหาว่าพวกเราที่ขับแท็กซี่ในท่าเรือรัษฎาเป็นแท็กซี่มาเฟีย จากการที่มีแท็กซี่โทรหาลูกค้าและลูกค้าเปิดลำโพง ผมจึงถูกเรียกให้ไปดูว่าใครเป็นคนพูด เพียงแค่อยากถามว่าทำไมต้องใส่ร้ายว่าพวกเราเป็นแท็กซี่มาเฟีย เพราะมีลูกค้าหลายคนที่ได้ยินว่าแท็กซี่ข้างในท่าเรือรัษฎาเป็นแท็กซี่มาเฟีย ทำให้เขาไม่กล้าที่จะซื้อตั๋ว เพื่อจะเดินทางไปจุดต่าง ๆ” นายเอกชัย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว

“คำว่ามาเฟียคือต้องมีตังค์ แท็กซี่มันจนจะตายคนแก่ ๆ ทั้งนั้น ทำมาหากินผมขอแก้ข่าวว่า คำว่ามาเฟียอย่าใช้กันเลยครับ สำหรับคนจน สำหรับคนขับแท็กซี่เพราะมันไม่เป็นความจริง ที่พักตรงนี้ที่พักรัษฎาวีไอพีกรุ๊ปร่วมกับซีทรานทราเวล มีไว้กันแดดกันฝนไว้กินข้าว คนที่ไม่มีที่ทำมาหากินมาขอวิ่งด้วยเราก็ให้วิ่งทั้งนั้น ใครมาวิ่งเราก็ให้วิ่งทั้งนั้น คนในตำบลรัษฎา ก็ขอฝากกับทุกคนด้วยครับ” นายเอกชัย กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่