จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 หน่วยกู้ชีพ อบต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนลงเล่นน้ำโดนสัตว์ทะเลกัดเข้าบริเวณน่องข้างขวาเป็นแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ เหตุเกิดบริเวณริมหาดกมลา หน้าสภ.กมลา จึงเดินทางไปรับตัวผู้บาดเจ็บคือ เด็กชายณภัทร ไชยารักษ์ คริสเตนโค อายุ 8 ปี เมื่อถึงที่เหตุได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตเป็นการด่วน เนื่องจากเป็นแผลฉกรรจ์มีเลือดไหลจำนวนมาก เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่าถูกสัตว์ทะเลชนิดใดกัด หรือทำร้ายจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์ จากนั้นได้มีการส่งภาพบาดแผลดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์หรือวินิจฉัยบาดแผล
ต่อมาจากการสอบถาม นายเดวิด มาร์ติน ช่างภาพใต้น้ำและผู้เชี่ยวชาญฉลามซึ่งอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต เพื่อสอบถามเกี่ยวกับบาดแผลดังกล่าว นายเดวิดเปิดเผยว่า ได้เห็นภาพดังกล่าวแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค. เบื้องต้นคาดว่าเป็นบลูชาร์ก เนื่องจากเป็นบาดแผลกัดและกระชากหรือสะบัด ซึ่งแตกต่างจากการกัดของสัตว์ทะเลทั่วไป
และในวันเดียวกัน (2 พ.ค.) นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน กล่าวว่า จากเหตุการณ์สัตว์ทะเลกัดเด็กลูกครึ่งไทย-ยูเครน ขณะลงเล่นน้ำที่หาดกมลานั้น เมื่อทราบเรื่องได้เข้าตรวจสอบร่วมกับ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยเข้าพบกับเด็กผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล พบว่ามีการเย็บแผลแล้ว อาการปลอดภัย
“น้องเป็นเด็กที่เก่งมาก สรุปจากรอยบาดแผลได้ว่า เป็นรอยแผลการกัดของฉลาม โดยฉลามมีพฤติกรรมหากินแนวเซิร์ฟโซน มนุษย์ไม่ใช่เหยื่อของฉลาม เกิดจากเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปลา ตอนที่เกิดเหตุเด็กลงเล่นน้ำเห็นฉลามเข้ามาใกล้และตอนที่ฉลามกัดขา เด็กได้ต่อยฉลามไปด้วย ซึ่งนายเดวิด มาร์ติน ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามก็มาร่วมดูด้วย ยืนยันว่าเป็นฉลาม คาดว่าน่าจะเป็นฉลาม 2 ประเภท ที่อยู่ในอันดามัน คือฉลามหูดำกับฉลามหัวบาตร” นายก้องเกียรติ กล่าว
สำหรับการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นอีกได้ทางหนึ่ง ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ อบต.กมลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้นำป้ายมาติดที่บริเวณหาดกมลา เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำให้ระวังสัตว์น้ำที่ทำให้เกิดอันตราย พร้อมทั้งเบอร์โทรสายด่วนของหน่วยกู้ชีพ อบต.กมลา และศูนย์นเรนทร 1669 พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไว้จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีฉลามในพื้นที่