หลังรับแจ้งพร้อมด้วย พ.ต.ท.เอกรัตน์ พลายด้วง รอง ผกก.ป.สภ.ป่าตอง จนท.มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บรรทุกหกล้อยี่ห้อฮีโน่ ส่งสินค้าด้านหลังคลุมด้วยผ้าใน ป้ายทะเบียนชัยภูมิ มีนายบุญโลม บุญพรม เป็นคนขับ ชนประสานงากับรถบรรทุกหกล้อส่งผ้า ป้ายทะเบียนภูเก็ตซึ่งมีนายสุทัศน์ โอมพะนา เป็นคนขับ รถบรรทุกทั้ง 2 คันส่วนหน้าพังยับ และคนขับติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยกันนำตัวทั้ง 2 คนออกมาจากรถ ก่อนนำส่ง รพ.ป่าตอง
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีขาวป้ายทะเบียนภูเก็ต ได้รับความเสียหายที่ด้านหน้าขวา มีนายนพพร ศรเทพ อายุ 37 ปีเป็นคนขับ ห่างกันเล็กน้อยยังพบรถยนต์โตโยต้าคัมรี่ ป้ายเขียวภูเก็ต รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ป้ายภูเก็ต รถกระบะโตโยต้า ป้ายกรุงเทพฯ และรถยนต์ฮอนด้า ป้ายเขียวภูเก็ต ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.อินทิรา อยู่ดี อายุ 17 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รวมผู้บาดเจ็บ 3 คนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งการจราจรอย่างเร่งด่วน โดยสภาพการจราจรเส้นทางขาเข้าและออกป่าตองกลายเป็นอัมพาตไปหลายชั่วโมง เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ โดยงานจราจรมีความจำเป็นต้องปิดถนนนานนับชั่วโมง ในระหว่างการนำรถเครนขนาดใหญ่มายกรถบรรทุกทั้ง 2 คันซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักกีดขวางการจราจรออกไปจากถนน ในเวลาประมาณ 20.20 น. สภ.ป่าตองแจ้งประชาสัมพันธ์ การจราจรเส้นทางถนนพระบารมีกลับคืนสู่ปกติกรณีการจราจรติดขัดจากสาเหตุเกิดอุบัติเหตุรถชน
พ.ต.ท.เอกรัตน์ กล่าวว่า ในทางคดีในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำเนินคดีกับนายสุทัศน์ คนขับรถบรรทุกคันต้นเหตุข้อหา ขับรถโดยประมาทและรถมีอุปกรณ์ไม่พร้อมมาขับขี่ หลังทราบเรื่องทาง จนท.ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานและตรวจสอบกล้อง CCTV ก่อนสอบปากคำพยานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป
สำหรับจุดเกิดเหตุดังกล่าวนั้นเคยเกิดอุบัติเหตุในทำนองเดียวกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งทางภาครัฐก็ยังมิได้ทำการแก้ไขให้เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งนี้เมื่อเดือนมิถุนายนปี 61 รอง ผอ.สนข.เปิดเผยความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายกะทู้ป่าตองจังหวัดภูเก็ตว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อต้นเดือน มี.ค. (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
และจากความสูญเสียครั้งแล้วครั้งแล่า ทำให้นายกเทศมนตรีป่าตองออกโรงเสนอทางแก้ไขปัญหา เพื่อขอให้ รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาจริง ๆ ภายหลังจากห้วงเวลาแค่เพียง 2 สัปดาห์ ของเดือนกรกฎมคมปีที่ผ่านมา กับการสูญเสียถึง 3 ชีวิต และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 50 ราย รวมถึงความเสียหายของทรัพย์สินต่าง ๆ และผลกระทบทางกายและใจของเหยื่อผู้ประสบเหตุ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)