ที่เกิดเหตุพบ รถบัสสีขาวทะเบียนภูเก็ต ข้างรถติดสติ๊กเกอร์ชื่อ “อุเทน กลัดนาขา” ชนอัดติดริมขอบกำแพงกั้นดินจนหน้ารถพังเสียหาย กระจกหน้าแตกกระจาย ห่างจากรถบัสไปประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียนกทม. ที่ส่วนท้ายด้านขวาของตัวรถพังเสียหาย ล้อหลังหลุดอยู่บนถนน
ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าดรีม สีฟ้า ป้ายทะเบียนภูเก็ต สภาพพังเสียหาย อีก 1 คัน สำหรับผู้บาดเจ็บนั้นพบเป็นหญิงชาวไทยไม่ทราบชื่อ 1 ราย นอนอยู่บนถนน มีอาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำส่งยังโรงพยาบาลป่าตองอย่างเร่งด่วน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่โดยสารมากับรถบัสนั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 รายเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลป่าตอง เช่นกัน พร้อมประสานรถตู้มารับนทท.ทั้งหมดส่งกลับที่พักโรงแรม
สอบถาม นายอุเทน กลัดนาขา อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของรถและเป็นคนขับรถบัส เล่าว่า ได้รับนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 35 คน มาจากพื้นที่ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ก่อนมุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองป่าตอง เพื่อไปส่งที่โรงแรมในพื้นที่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งรถได้เกิดปัญหาหม้อลมระเบิดก่อนไม่สามารถเบรกรถได้ จึงพยายามหาที่หลบจนรถเสียหลักพุ่งชน กับรถจักรยานยนต์และรถยนต์เก๋งที่วิ่งสวนมา ก่อนพุ่งเข้าเบียดกำแพงดังกล่าว
ด้านนายสาธิต รองสวัสดิ์ คนขับรถเก๋งโตโยต้าสีขาว เล่าว่า ขณะกำลังขับขึ้นเขาอยู่นั้นได้เห็นรถบัสซึ่งวิ่งสวนลงเขาเสียหลักพุ่งตรงมาหา ตนเองจึงพยายามหลบแต่ไม่ทันถูกชนเข้าด้านท้ายอย่างจังจนรถหมุน ซึ่งเคราะห์ดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ป่าตอง ได้เร่งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และคลี่คลายการจราจรไม่ให้ติดขัด พร้อมทั้งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้เร่งประสานงานกับบริษัททัวร์ เกี่ยวกับสิทธิการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งเร่งประสานงานเพื่อนำส่งนักท่องเที่ยวยังที่พัก
โดยเหตุการณ์กรณีเดียวกันนี้เกิดขึ้น เมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค. ในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวแดนมังกร 30 กว่าชีวิต ลมหม้อเบรกหมดเขาป่าตองพลิกคว่ำ คร่าเด็กชายวัย 10 ขวบ เจ็บระนาว (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังเหตุคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีกหลายราย ภายในรถมีเสียงนักท่องเที่ยวชาวจีนชายหญิงนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและตื่นตกใจเป็นจำนวนมาก (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 ส.ค. พ่อเมืองภูเก็ตได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดอุบัติเหตุเขาป่าตอง วางแผนสร้างจุดเบี่ยงเพื่อชะลอความเร็วรถ 3 จุด เรียกความมั่นใจประชาชน พร้อมกับเน้นย้ำอย่างชัดเจนว่าหากรถบัสมีสภาพไม่สมบูรณ์ไม่พร้อมใช้งานจะไม่อนุญาตให้ขึ้นเขาป่าตองโดยเด็ดขาด (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
