ตร.ถลาง ยังไม่มีการตั้งข้อหาเหยื่อโจรจี้ชิงมือถือ หลังเกิดการต่อสู้จนฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต

ภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ยังคงดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดี กรณี 2 หนุ่มต่อสู้จนได้รับบาดเจ็บถูกแทงหลายแผล เป็นเหตุให้มีชายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย โดยหนุ่มผู้รอดชีวิตอายุ 33 ปี ระบุว่าตนถูกโจรจี้ทำร้ายร่างกายพร้อมกับชิงโทรศัพท์ไป ก่อนจะติดตามโจรที่ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จนเกิดการต่อสู้และได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย

ชิลา ริวา

วันศุกร์ ที่ 23 มีนาคม 2561, เวลา 16:17 น.

มีดที่พบในที่เกิดเหตุ ภาพ เอกภพ ทองทับ

มีดที่พบในที่เกิดเหตุ ภาพ เอกภพ ทองทับ

นายอรรถพงศ์ ตรีสุบ อายุ 33 ปี ชาว ต.ศรีสุนทร ได้รับบาดเจ็บถูกแทงบริเวณท้อง 1 แผลหน้าอกด้านซ้าย 1 แผล และใบหน้าอีก 1 แผล เหตุเกิดเวลาประมาณ 3.00 น. ของวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา

โดยเจ้าตัวระบุว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนมารอรับแฟนที่ริมถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาออกบริเวณ ม.1 ต.ศรีสุนทร จากนั้นได้มีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ขับมาจอดและใช้อาวุธปืนและมีดจี้บังคับเอาทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์ของตนไป โดยตนเองได้ต่อสู้กับคนร้ายและแย่งมีดจากคนร้ายได้ก่อนจะได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้พบชายอายุประมาณ 30 ปี ทราบชื่อภายหลังคือนายวิรัตน์ ศักดิ์แก้ว อายุ 28 ปี นอนเสียชีวิต มีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณหน้าอกซ้ายขวา ลำคอและด้านหลังรวม 8 แผล (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

“ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นกับนายอรรถพงศ์แต่อย่างใด ทั้งนี้การสืบสวนสอบสวนยังคงดำเนินการต่อไป คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนก่อนที่จะสรุปสำนวนคดี” พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ถลาง กล่าวกับ The Phuket News

นอกจากนี้ พ.ต.ท.อนุกูล ยืนยันว่านายวิรัตน์ คือคนคนเดียวกับมิจฉาชีพที่ก่อเหตุ ขับรถจักรยานยนต์ประกบเหยื่อ ก่อนถีบล้อให้เสียหลักล้มเจ็บและจี้ชิงทรัพย์ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

“เหยื่อจากเหตุจี้ชิงทรัพย์ ยืนยันแล้วว่าชายที่เสียชีวิตเป็นคนเดียวกันกับที่จี้เธอ ทั้งนี้เธอได้รับของที่ถูกจี้ไปกลับคืนมาแล้ว รวมทั้งไอโฟน 6” พ.ต.ท.อนุกูล กล่าว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่