สทท.ภูเก็ต รายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สัตวแพทย์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ประกอบด้วย น.สพ พีรวัส วงษ์ลือชัย และ สพ.ญ.นรีรัตน์ สังขะไชย ผู้ช่วยวิจัย คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ลงพื้นที่เพื่อร่วมพิสูจน์ DNA จระเข้ที่ถูกจับได้ที่บริเวณปลายแหลมเกาะกะทะ หาดลายัน เมื่อเช้ามืดของวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ซึ่งทีมสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมกันพิสูจน์จระเข้ที่ถูกเลี้ยงไว้ในบ่อภายในศูนย์ฯ พบว่าจระเข้ตัวนี้มีความยาว 2.50 เมตร เป็นจระเข้เพศเมีย ไม่พบการฝังไมโครชิพ สภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แต่มีบาดแผลภายนอกเล็กน้อย เบื้องต้นได้มีการตรวจสุขภาพตรวจหาโรคพยาธิแฝง และได้มีการเก็บตัวอย่างเลือดไปเพื่อจะส่งไปยังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อจะตรวจหา DNA พิสูจน์ว่าเป็นสายพันธุ์อะไรเป็นจระเข้น้ำเค็มแท้ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติหรือเป็นจระเข้น้ำเค็มพันธุ์ผสม สำหรับเรื่องของผลการตรวจ DNA จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ถึงจะทราบผลที่ชัดเจน
นายไพศาล สุขปุณพันธ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าจากการลงพื้นที่สำรวจฟาร์มเลี้ยง ทั้ง 5 แห่งในจังหวัดภูเก็ต พบว่าไม่มีรายงานจระเข้หลุดออกมา จึงสันนิษฐานได้ว่าจระเข้ตัวนี้น่าที่จะมาจากการเลี้ยง โดยมีข้อมูลที่ชัดเจนคือมีตะไคร่น้ำบนหลังของจระเข้ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าน่าจะอยู่ในที่ที่มีน้ำขังเป็นเวลานาน
ด้านนายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต ได้เน้นย้ำถึงเรื่องจดแจ้งการครอบครองจระเข้ให้ถูกต้อง เนื่องจากขณะนี้จังหวัดภูเก็ตได้ออกประกาศขอให้ผู้ที่ครอบครองจระเข้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และไม่ได้จดแจ้งการครอบครองที่ถูกต้อง รีบแจ้งกับทางจังหวัด มิฉะนั้นให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (อ่านเพิ่เติม คลิก)
พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยสอดส่อง หากพบเห็นผู้มีพฤติกรรมซื้ออาหารสัตว์ หรือโครงไก่ในปริมาณมากเกินความจำเป็น หรือคาดว่าจะมีการครอบครองเลี้ยงจระเข้โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้แจ้งเบาะแสได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต หมายเลขโทรศัพท์ 0-7621-2460, 08-9866-5991, 08-1731-8923 ผู้แจ้งเบาะแสทางจังหวัดจะมีรางวัลตอบแทนให้