นายกราไวย์สั่งห้ามลงเล่นน้ำหาดในหาน-ยะนุ้ยโดยเด็ดขาด หวั่นอันตรายจากจระเข้ จัดชุดเฝ้าระวังตลอดสองแนวชายหาด

ภูเก็ต – นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์สั่งห้ามลงเล่นน้ำตลอดแนวชายหาดในหานและหาดยะนุ้ยโดยเด็ดขาด หลังจากมีผู้พบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดจะมีการติดตั้งธงแดงตลอดแนว พร้อมปักป้ายแจ้งเตือนห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด รวมถึงจัดชุดกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่เทศบาลเฝ้าระวังตลอดแนวชายหาดทั้งสองหาด

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 19 กรกฎาคม 2561, เวลา 10:34 น.

เช้าวันนี้ (19 ก.ค. 61) นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า “ได้รายงานเรื่องนี้ไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอแล้ว เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจับจระเข้ตัวดังกล่าว”

“เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้มีการเฝ้าระวังกันตลอดแนวชายหาด ซึ่งเราได้พบเห็นจระเข้ขนาด 2-3 เมตรอยู่หลายรอบ โดยพบว่าจระเข้ตัวดังกล่าวขึ้นมาบนหาด แต่พอเจอคนก็กลับลงไปในทะเล จากนั้นก็พบว่านอนอยู่บนโขดหิน แต่ยังไม่มีการจับแต่อย่างใด เนื่องจากต้องคอยทางผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการโดยเฉพาะ โดยในวันนี้ชุดทำงานจะอยู่ประจำทั้งสองหาด คือ หาดในหาน และหาดยะนุ้ย ” นายอรุณ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (18 ก.ค. 61) เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ได้รับแจ้งจาก นางธนันณัฏฐ์ เสือเผือก ว่าลูกชายที่ไปตกปลาพบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ลอยอยู่ในทะเล บริเวณหน้าชายหาดยะนุ้ย หมู่ที่ 6 ต.ราไวย์ ค่ำวันเดียวกัน โดยหนุ่มคนดังกล่าวระบุว่าหนุ่มจะไปตกปลาที่หาดยะนุ้ย แต่คลื่นแรงจึงเปลี่ยนใจไม่ตก ขณะกำลังเดินกลับเหลือบไปเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ยาวเกือบ 3 เมตร ลอยคอในทะเล รีบถ่ายภาพก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงค์ รอง ผกก.ป.สภ.ฉลอง ร.ต.ท.ธนกฤตร เอี่ยมชลคำ รอง สวป. สภ.ฉลอง ปฏิบัติหน้าที่ รอง สว.จร.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.ฉลอง ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วย นายธีระพงษ์ เถาว์แดง รองนายกเทศบาลตำบลราไวย์ นายประพจน์ ณ ตะกั่วทุ่ง ประธานสภาเทศบาลฯ พนักงานเทศกิจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ทต.ราไวย์ เเละผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ได้ทำการส่องไฟค้นหาไปตามแนวชายหาดและในทะเล พบว่ามีแสงสะท้อนลักษณะคล้ายดวงตาสีแดงของจระเข้ แต่ไม่ชัดเจน ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวมีคลื่นลมแรงจึงได้เพียงแค่สังเกตการณ์อยู่ที่ชายฝั่ง

นายสมชาย ขุนหลวง อายุ 22 ปี ผู้แจ้งเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. ตนเองได้เดินทางมายังหาดยะนุ้ยเพื่อไปตกปลา แต่เมื่อเดินลงไปที่โขดหินบนชายหาดพบว่าคลื่นลมแรงจึงไม่ได้ตกปลา และกำลังเดินกลับขณะนั้นเหลือบไปเห็นจระเข้ไม่ทราบชนิด ขนาดประมาณ 3 เมตร ลอยอยู่ในทะเล ห่างจากฝั่งไปเล็กน้อย โดยจระเข้ตัวดังกล่าวกำลังว่ายน้ำเข้ามาใกล้โขดหิน แต่เนื่องจากขณะนั้นมีคนอยู่ที่ชายหาดจระเข้จึงว่ายน้ำมุ่งหน้าออกทะเล ตนจึงรีบถ่ายภาพไว้และโทรศัพท์กลับไปหาแม่เพื่อให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ด้านนายประพจน์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จระเข้ดังกล่าวน่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่มีชาวประมงในพื้นที่ ต.ราไวย์พบเห็น เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันเดียวกัน ก่อนจะมาพบอีกครั้งในช่วงเย็นเบื้องต้นยังไม่ทราบชนิดและเพศ และที่มาของจระเข้ตัวดังกล่าว และจากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีประวัติการพบในบริเวณดังกล่าวหรือใกล้เคียงมาก่อน แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย จึงต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์พร้อมทั้งแจ้งเตือน ประชาชนและนักท่องเที่ยวและชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ให้ระมัดระวังและห้ามไม่ให้ลงไปบริเวณชายหาดยะนุ้ยในยามวิกาล ก่อนทำการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมได้ประสานทางประมงจังหวัดช่วยทำการค้นหาต่อ

นายก ทต.ราไวย์ กล่าวอีกว่า “อย่างไรก็ตาม เราจะมีการเฝ้าระวังกันแบบวันต่อวัน ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะอนุญาตให้ลงว่ายน้ำบริเวณหาดทั้งสองได้เมื่อใด ต้องรอให้มั่นใจในความปลอดภัยเสียก่อน” 

จังหวัดภูเก็ตเคยมีข่าวโด่งดังเกี่ยวกับจระเข้ เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมของปี 2560 ที่ผ่านมา เมื่อมีชาวต่างชาติรายหนึ่งสามารถบันทึกภาพจระเข้ขนาดใหญ่ด้วยการใช้โดรนบินที่บริเวณชายหาดเลพัง ต.เชิงทะเล (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ก่อนที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานจะช่วยทำการค้นหาจนพบว่า อาศัยอยู่ในขุมน้ำของเอกชน ก่อนเปิดปฏิบัติการไล่ล่ากันถึง 2 วัน 2 คืน (อ่านเพิ่มเติม คลิก) และนำส่งไปพักฟื้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเพาะเลี้ยงประมงชายฝั่ง บ้านพารา ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง ระหว่างรอพิสูจน์ดีเอ็นเอ จนเมื่อผลตรวจสอบดีเอ็นเอยืนยันได้ว่า จระเข้ตัวดังกล่าวเป็นพันธุ์ลูกผสม (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ไม่สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ จึงมอบให้สวนสัตว์ภูเก็ต รับไปดูแลชั่วคราว (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่