เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยกับ The Phuket News ถึงความคืบหน้าเหตุเรือชนกันบริเวณสามแยกคลองเกาะแก้ว เป็นเหตุให้เด็กชายอายุ 12 ปี และเด็กหญิงอายุ 6 ปี ชาวรัสเซียเสียชีวิตว่าพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวคนขับเรือที่เกิดเหตุทั้งสองลำเข้ามาพบพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบแล้ว ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ
ทางด้าน พ.ต.ท.ธาดา โสดารักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี รายงานว่า เหตุเรือชนดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ซึ่งภายหลังเกิดเหตุในเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันเดียวกันได้เรียก นายอัษฎาวุธ หรือหมาน สูเด็น อายุ 24 ปี กัปตันเรือ ALP111 เข้ามาพบพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ตามความผิดอาญามาตรา 290, 291 จากนั้นเวลา 14.00 น. ได้แจ้งข้อกล่าวหาเดียวกันแก่ นายอนุสรณ์ ดวงเกิด อายุ 33 ปี กัปตันเรือปาหยัน 5 คนขับเรือคู่กรณี(อ่านเพิ่มเติม คลิก)
พ.ต.ท.ธาดา กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนายอัษฎาวุธ ทำหน้าที่กัปตันเรือขับเรือนำเที่ยว ALP111 ขนาดเรือ 21.06 ตันกรอส นำนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวน 35 คน พร้อมลูกเรือซึ่งมี นายอาสือลัน เจ๊ะอามะ เป็นช่างประจำเรือ มี น.ส.สุทธิดา กงจันทร์ เป็นไกด์ประจำเรือ นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่เกาะไข่ อ่าวพังงา
เมื่อขับมาถึงบริเวณสามแยกปากทางเข้าท่าเทียบเรือรอยัลภูเก็ตมารีน่า (คลองเกาะแก้ว) ได้ชนเข้ากับเรือนำเที่ยวชื่อ ซีสตาร์ หรือ ปาหยัน 5 ที่มีนายอนุสรณ์เป็นกัปตันเรือ โดยได้ขับเรือลำดังกล่าวมาจากแหลมหงา พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ ล่องข่อง ซึ่งพนักงานประจำเรือ และน.ส.ผกางาม บุญชูวงศ์ เป็นไกด์ประจำเรือ เพื่อเข้ามารับนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือรอยัลภูเก็ตมารีน่า เป็นเหตุให้เรือทั้งสองลำได้รับความเสียหาย มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจำนวน 18 คน และลูกเรือคือนายอนุรักษ์ได้รับบาดเจ็บเป็นเหตุให้เด็กชายยาโรสลอฟ ลีซียุ อายุ 12 ปี สัญชาติรัสเซีย และเด็กหญิงมิราสลาวา ลีซายา อายุ 6 ปี สัญชาติรัสเซีย ที่โดยสารมาในเรือ ALP111 ถึงแก่ความตาย
พ.ต.ท. ธาดา กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนภาพกล้องภาพกล้องวงจรปิด และพยานที่เกี่ยวข้อง เชื่อได้ว่าทั้งนายอัษฎาวุธ และนายนายอนุสรณ์ ขับเรือเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดในการเดินเรือ จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้แก่กัปตันเรือทั้งสองลำดังกล่าว และจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ศาลจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ The Phuket News (12 ก.พ.) ว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนได้รับการอนุญาตจากศาลจังหวัดภูเก็ต พิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดีไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.เวลาประมาณ 16.00 น. ด้วยหลักประกันคนละ 1 แสน 5 หมื่นบาท โดยจะต้องเข้ามารายงานตัวที่ศาลจังหวัดภูเก็ตทุก 12 วัน นับจากวันที่ 11 ก.พ. 63
ด้านนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและกล่าวว่า กรมเจ้าท่าเน้นย้ำความปลอดภัยมาโดยตลอด เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตเข้าตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และสั่งห้ามใช้เรือทั้ง 2 ลำแล้ว พร้อมทั้งสั่งกัปตันเรือทั้ง 2 ลำ ห้ามใช้ประกาศนียบัตรการเดินเรือเป็นเวลา 2 ปี (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
“เห็นชัดใน 2 ปัญหา คือเรื่องของความชำนาญร่องน้ำ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นทางโค้งเวลาน้ำลงจะขับยาก แต่คนขับเรือก็ยังขับด้วยความเร็วอยู่ และในส่วนที่ 2 ต้องมีการอบรมให้ความรู้คนขับเรือใหม่ทั้งหมดทั้งระบบ ในกรณีการเกิดอุบัติเหตุแล้วระบบความช่วยเหลือต้องเป็นไปอย่างทันท่วงที เพื่อจะลดการสูญเสียให้ได้” นายวิทยา กล่าว
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับคณะ ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและบาดเจ็บพร้อมระบุว่า ทางจังหวัดได้ตรวจสอบเงินช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและเอกชน และได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งจ่ายเงินเยียวยาทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตโดยเร็วที่สุดแล้ว
รายงานเพิ่มเติม: ธัญลักษณ์ สากูต
