พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.ภูเก็ต รายงานแนวทางการใช้ทฤษฎี 3 เหลี่ยมอาชญกรรม สร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ในโอกาสเข้าร่วมประชุมรายงานสถานการณ์โควิด-19 ณ ห้องประชุม ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
“เพราะความปลอดภัยคือตัวชี้วัดสำคัญต่อสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งจังหวัดภูเก็ตเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกเดินทางเข้ามา ทำให้จังหวัดได้มีการยกระดับความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์” พ.ต.อ.ธเนศ กล่าว
เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตสั่งปิด น้ำตกโตนอ่าวยน และ ป่าโกงกางบางโรง เพื่อความปลอดภัย
“ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เอ็กซเรย์สถานที่ท่องเที่ยวทั่วจังหวัดภูเก็ตจำนวน 198 แห่งอย่างละเอียด พบว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นพื้นที่เสี่ยงสูง 2 แห่ง ซึ่งได้สั่งปิดไปแล้ว โดยปิดทั้งทางเข้าและทางอากาศ หากจะค้นหาในอินเตอร์เน็ตก็จะไม่พบสถานที่ตั้งของพื้นที่ดังกล่าว” พ.ต.อ.ธเนศ กล่าว
“ขณะเดียวยังพบพื้นเสี่ยงปานกลางและเสี่ยงน้อยอีก 26 แห่ง โดยมีการปรับภูมิทัศน์ ติดไฟส่องสว่าง ตัดต้นไม้ไม่ให้รก และจัดชุดอาสาชรบ. เพิ่มความถี่ในการออกตรวจ รวมทั้งหน่วยงานท้องที่และท้องถิ่นได้จัดตั้งงบประมาณในการติตตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มขึ้น เพื่อตัดช่องการเกิดอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยข้อมูลจะเชื่อมโยงกับศูนย์ EOC Phuket Sandbox”
นอกจากนี้ ตม.ภูเก็ตยังได้แบ่งนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสกลายเป็นเหยื่อออกเป็น 4 กลุ่ม โดยให้ SHA Plus manager ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดกับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวทั้ง 4 กลุ่มประกอบด้วย คนแก่-คนป่วย, ผู้หญิงที่เดินทางมาคนเดียว, กลุ่มสาว ๆ และชายโสด
สำหรับบุคคลที่เดินทางผ่านด่านตรวจท่าภูเก็ต จะต้องผ่านการสแกนประวัติอย่างละเอียด เพื่อสกัดผู้ที่มีคดีติดตัวเข้ามาในจังหวัด โดย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้มอบเครื่องอ่านบัตรให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับมอบมือถือจำนวน 26 เครื่อง มูลค่า 130,000 บาท จากภาคเอกชน เพื่อใช้กับเครื่องอ่านบัตรในการปฏิบัติงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองบุคคลเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และเพื่อเสริมมาตรการคัดกรองบุคคลในโครงการแซนด์บ็อกซ์ต่อไป
ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
