ภูเก็ตเตรียมพร้อมหน้ากากอนามัย 5 หมื่นชิ้น เผื่อแจกจ่ายฉุกเฉินกรณีหมอกควัน

จังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference รับนโยบายการเตรียมพร้อม ช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์หมอกควัน จากนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (30 ก.ย.) ซึ่งทางกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จัดประชุม ณ ห้องประชุม ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนราชการต่าง ๆ ได้รับทราบแนวทางการเตรียมการแก้ไขปัญหา โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ข่าวภูเก็ต

วันอังคาร ที่ 1 ตุลาคม 2562, เวลา 15:40 น.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการแก้ปัญหาก่อนภาวะวิกฤต และชี้แจงเตรียมดำเนินการในการช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทางรัฐบาลได้มอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง วางแผนตามอำนาจหน้าที่ ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดในทุกระดับสถานการณ์

“สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมควบคุมมลพิษมีเครื่องมือพ่นน้ำเพื่อลดความหนาของหมอกควันได้ในระดับหนึ่ง และจากการติดตามสภาพพยากรณ์อากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าจะมีฝนตกลงมาซึ่งจะช่วยบรรเทาความหนาแน่นของหมอกควันได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขไว้ช่วยเหลือประชาชนด้วยที่ได้รับการเจ็บป่วยจากหมอกควันด้วย” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มอบหมายให้ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รอง ผวจ. นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังสถานการณ์แนวโน้ม แนวทางการเผชิญเหตุ สถานการณ์หมอกควันและการช่วยเหลือประชาชน ขณะเดียวกันทางสำนักงานสาธารณสุข (สสจ.)จังหวัดภูเก็ตได้เตรียมความพร้อม โดยจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้จำนวน 50,000 ชิ้น เพื่อไว้แจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากหมอกควัน

โอกาสนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ภูเก็ตรายงานว่า จังหวัดภูเก็ตมีสถานการณ์หมอกควัน เกินค่ามาตรฐานและส่งผลกระทบต่อประชาชนเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมงมีค่าเท่ากับ 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) (อ่านเพิ่มเติม คลิก) สสจ.ได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวน 10,000 ชิ้น ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ เพื่อทำการแจกจ่ายแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ในขณะที่ปภ.ภูเก็ตและศูนย์ ปภ.เขต 18 เตรียมพร้อมสนับสนุนหุ่นยนต์ดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ ทำการพ่นละอองน้ำในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหนาแน่นด้วย (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ล่าสุดวันนี้ (1 ต.ค.) Air4Thai รายงาน คุณภาพอากาศบริเวณ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 24 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์คุณภาพ “ดีมาก”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณภาพอากาศของภูเก็ตจะอยู่ในเกณฑ์ “คุณภาพดีมาก” สสจ.ภูเก็ต ก็ได้เตรียมความพร้อมโดยจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้จำนวน 50,000 ชิ้น เพื่อไว้แจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควัน พร้อมทั้งขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์หมอกควัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อไป

สำหรับดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) กรมควบคุมมลพิษได้จัดทำเป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่

AQI 1 ค่า ใช้เป็นตัวแทนค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5), ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10), ก๊าซโอโซน (O3), ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ซึ่งเกิดจากการเผาไฟไหม้ในลักษณะที่แตกต่างกัน

แบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ตั้งแต่ 0 ถึง 201 ขึ้นไป ซึ่งแต่ละระดับจะใช้สีเป็นสัญญลักษณ์เปรียบเทียบระดับของผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ดัชนีคุณภาพอากาศ 100 จะมีค่าเทียบเท่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป หากมีค่าสูงเกินกว่า 100 แสดงว่าค่าความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศมีค่าเกินมาตรฐานและคุณภาพอากาศในวันนั้นจะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

0-5 คุณภาพอากาศดีมาก แทนด้วยสีฟ้า คุณภาพอากาศดีมาก เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยว

26-50 คุณภาพอากาศดี แทนด้วยสีเขียว คุณภาพอากาศดี สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้ตามปกติ

51-100 คุณภาพอากาศปานกลาง แทนด้วยสีเหลือง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ สำหรับผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

101-200 เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แทนด้วยสส้ม ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น

ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์

201 ขึ้นไป มีผลกระทบต่อสุขภาพ แทนด้วยสีแดง ทุกคนควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์

ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต/กรมควบคุมมลพิษ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่