รวบหนุ่มนักศึกษาติดพนันบอลออนไลน์ ไขควงจี้ทองตา 77 อีโต้จี้เด็ก 10 ขวบเอาทอง

ภูเก็ต – วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุญยสิริ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัณฑิต ขาวสุธรรม ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาอายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต หลังก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ในพื้นที่กะทู้และเมืองภูเก็ต เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับว่าต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนันบอลออนไลน์ ฝากเตือนประชาชนอย่าเข้าใกล้การพนัน ไม่เช่นนั้นจะเสียใจเหมือนตน

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 14 มกราคม 2563, เวลา 17:54 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้คือ นายปภาวิน หรือวี พลภักดี อายุ 24 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 106/21 ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 14 ม.ค.63 ข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพยน์นั้นไป หรือเพื่อใหพ้นการจับกุม” พร้อมของกลางในคดีที่ 1 ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิก สีขาว-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กง 3079 ภูเก็ต, หมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีน้ำเงิน, ชุดที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ และอาวุธมีด (มีดอีโต้) ส่วนของกลางคดีที่ 2 ประกอบด้วย ชุดที่ใส่ขณะก่อเหตุ, ไขควง 1 อัน พร้อมด้วย หมวกนิรภัย, สร้อยคอทองคำ 5 บาท 1 เส้น และพระหลวงพ่อแช่มเลี่ยมทองรุ่น 1 จำนวน 1 องค์

สำหรับคดีแรกเกิดขึ้นที่สวนสาธารณะกะทู้ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ในเวลาประมาณ 10.20 น. ส่วนคดีที่ 2 เกิดที่บริเวณปากซอยนิมิตร 1 ถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลาประมาณ 07.30 น.(อ่านเพิ่มเติม คลิก) ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 106/21 ถ.นริศร ต.ตลาดใหญ่ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ได้มี นางประนอม จอร์แดน อายุ 36ปี อยู่บ้านเลขที่ 162/58 ม.10 ต.ฉลอง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กะทู้ แจ้งว่าขณะที่มารับประทานอาหารเช้าที่บ้านเก็ตโฮ่ ต.กะทู้ พร้อมบุตรสาววัย 10 ขวบ หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จก็ได้เดินขึ้นไปที่รถยนต์เพื่อกลับบ้าน ในระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้ใช้มีอีโต้จี้บุตรสาวของผู้เสียหาย แล้วขู่เอาทองรูปพรรณไปจำนวนหนึ่ง จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุก็สั่งการให้ชุดสืบสวนลงหาข่าวอย่างใกล้ชิด

ต่อมาในวันที่ 13 ม.ค.ช่วงเช้าคนร้ายก็ได้ก่อเหตุใช้ไขควงจี้และแทงเข้าที่บริเวณฝ่ามือชิงทรัพย์นายสถิต พงศ์ธนาพาณิช อายุ 77 ปี ได้ทองคำหนัก 5 บาท และพระหลวงพ่อแช่มรุ่นแรกเลี่ยมทอง 1 องค์แล้วหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพรถจักรยานยนต์คนร้ายที่ก่อเหตุได้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ก็ได้แกะรอยจนกระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายได้ เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าได้ลงมือก่อเหตุทั้ง 2 ครั้งจริง เนื่องจากติดการพนันฟุตบอลออนไลน์ เสียพนัน ติดหนี้ ไม่มีเงินจ่าย จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เพื่อต้องการนำเงินไปจ่ายค่าหนี้พนันฟุตบอลออนไลน์

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ พบว่าเคยต้องคดี เมื่อปี 2560 โดยจับกุมมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม)ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต

นายปภาวิน กล่าวว่า ตนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ชั้นปีที่ 3 คณะบริหารทรัพยากรมนุษย์ ก่อนเกิดเหตุตนได้แอบเอาทองของป้าไปจำนำ รอบแรกได้เงินจำนวน 7 หมื่นบาท แล้วไปเล่นการพนันเสียหมดตัว ครั้งที่ 2 เอาเงินของป้าอีก 3 หมื่นไปเล่นการพนันเสียหมดตัวอีก ซึ่งป้าห้ามว่าเลิกเลินการพนันได้แล้ว แต่ตนยังไม่สามาถที่จะเลิกได้ ครั้งสุดท้ายป้าให้เงินอีก 3 หมื่นบาทไปจ่ายค่าเทอม แต่ตนก็ยังเอาไปเล่นการพนัน เนื่องจากผีพนันเข้าสิง เล่นจนเสียหมดตัว

ครั้งนี้ไม่กล้าบอกป้าเพราะกลัวป้าด่า จึงคิดอะไรไม่ออกตัดสินใจก่อเหตุชิงทรัพย์ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกได้ของไปจำนวนหนึ่งและไปจำนำที่พื้นที่ ต.กมลา จากนั้นครั้งที่ 2 มาก่อเหตุชิงทองน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ซึ่งครั้งนี้ไม่ทันได้นำไปจำนำ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวได้เสียก่อน ตนอยากฝากบอกทุกคนที่คิดจะเล่นการพนันว่าอย่าเข้าไปเล่นการพนันเด็ดขาด เพราะมีโอกาสพลาดเสียหมดตัว และจะมานั่งเสียใจเหมือนตน

ด้านนางประนอม หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนและลูกสาววัย 10 ขวบ ไปรับประทานอาหารเช้าที่บ้านเก็ตโฮ่ ต.กะทู้ หลังรับประทานอาหรเสร็จก็ได้เดินทางจะขึ้นรถยนต์กลับบ้าน ในระหว่างนั้นลูกสาวนั่งอยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งข้างคนขับ คนร้ายก็ใช้อาวุธปมีดอีโต้ มาจี้ที่อกลูกสาวและบอกว่าให้ตนเอาทองที่สวมทั้งหมดมาให้ ซึ่งตนเห็นว่าลูกสาวถูกจี้อยู่ เกรงจะเกิดอันตรายต่อลูก จึงได้ถอดทรัพย์สินเป็นสร้อยคอคำสวิสเซอนร์แลนด์ 1 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 1 บาท 1 เส้น และสร้อยข้อมือ หนัก 2 สลึง 2 เส้น ให้คนร้ายไป จากนั้นก็ได้เดินทางแจ้งความเพื่อให้ตำรวจล่าตัวคนร้าย

นางประนอมกล่าวอีกว่า “ขณะเกิดเหตุมีสติไม่คิดต่อสู้คนร้าย เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะทำร้ายลูกสาว ส่วนทรัพย์สินนั้นคือของนอกกาย ไม่ตายหาใหม่ได้ แต่หากต่อสู้เกิดคนร้ายทำร้ายลูก เราจะเสียใจจนวันตาย เพราะไม่สามารถที่จะซื้อชีวิตของลูกกลับมาได้แล้ว”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่